ในรูปแบบคลาสสิกจักรยานประกอบด้วยสองล้อซึ่งตั้งอยู่หนึ่งที่อยู่เบื้องหลังอื่น ๆ และเชื่อมต่อกันด้วยกรอบโลหะ โดยทั่วไปยังเป็นชิ้นส่วนของจักรยานทั่วไปพวงมาลัยที่นั่งระบบไดรฟ์และเบรก ในฐานะที่เป็นอุปกรณ์เสริมที่ไม่ได้เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำงานของจักรยานจำนวนของส่วนประกอบที่ใช้
ไม่มีวันที่ที่ระบุในการที่จะแอตทริบิวต์การประดิษฐ์ของจักรยานคือเพื่อให้ไม่มีนักประดิษฐ์ที่เฉพาะเจาะจง นานก่อนที่จะปรากฏตัวของโครงสร้างคล้ายกับจักรยานที่ทันสมัยโดยทั่วไปนั้นจะบันทึกความหลากหลายของยานพาหนะดำเนินการพลังงานของกล้ามเนื้อเดียวของไรเดอร์ หนึ่งของโครงสร้างเหล่านี้ซึ่งโดยมากถือว่าเป็นบรรพบุรุษของจักรยานเป็น 'draisienne' draisienne สร้างขึ้นโดยชาวเยอรมัน varonoKarl ฟอน Ntrais ใน 1817 (ชื่อ 'draisienne' เป็นรุ่นที่ฝรั่งเศสที่มีชื่อของผู้ผลิต) draisienne เกือบทำจากไม้ ไม่ต้องเหยียบไรเดอร์ที่จะนำในการเคลื่อนไหวโดยการผลักดันกับเท้าของเขาไปข้างหลัง การก่อสร้างฟอน Ntrais FATBIKE กลายเป็นที่รู้จักเป็นงานอดิเรกม้าสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของผู้ติดตามที่จะเข้ามาแทนที่วิธีการหลักของการขนส่งของศตวรรษที่ 19 ม้า
ลูกชายของเขาปิแอร์ความเกลียดชังใน velocipede (1868)
ในปี 1839 ที่สก็อตเหล็ก Kirkpatrik Macmillan วางแผนที่จะ« velocipede » Macmillan การปรับปรุงการผลิตฟอน Ntrais แนะนำการใช้เหยียบที่เชื่อมต่อกันด้วยแท่งไปยังล้อหลัง ด้วยวิธีนี้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องนำเท้าของเขาในการติดต่อกับพื้นดินซึ่งมีความหมาย จำกัด ความเร็วของรถ จักรยานเสือภูเขา ยี่สิบปีต่อมาในปี 1860, ฝรั่งเศสปิแอร์ฉันเกลียดเปลี่ยนการออกแบบของ velocipede โดยตรงการเชื่อมต่อเหยียบไปยังล้อหน้า ต่อมาผมเกลียดมันแนะนำการใช้งานของยางล้อที่เป็นของแข็งการแสดงเป็นหลักวิธีการที่รู้จักกันในปัจจุบันยาง ในปี 1870 ชาวอังกฤษเจมส์ Starlef และวิลเลียมโจรวางแผนจักรยานที่มีล้อหน้ามีขนาดใหญ่มาก ด้วยวิธีนี้พวกเขาจัดการเพื่อที่สวยงามสำหรับเวลาของมันความเร็ว 24 กม. / ชม แบบจำลองที่สร้างขึ้นเป็นชื่อ 'แอเรียล' และได้รับจักรยานครั้งแรกที่ทำจากโลหะ ข้อเสียเปรียบหลักของขนาดของล้อหน้าแอเรียลเป็นตำแหน่งที่สูงมากของอานเนื่องจากการกระจายน้ำหนักที่ไม่ดีมันมีผลของการลดความปลอดภัยของผู้ขับขี่ที่
จักรยานล้อโต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น