วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

"พอจะเชื่อถือได้มั้ยครับ คุณกาซะลอง"

แต่ใส่หน้ากากเข้าหากัน"
คล้ายนาเสียงจะคุ้น แต่ในสถานการณ์เช่นนั้Iม่มีเวลาที่หล่อนจะนึกถึงขุดค้น ความรู้สืกแห่งห้วงนั้น กาชะลองนิ่วหน้า พูดอย่างนีไาเท่ากับเพรู้ว่าหล่อนฟ้น นางเอกละคร และจงโจพูดประซดหล่อนชัดๆ มันน่าจะรายงานเสียโห้เข็ด ในเมื่อ เหล่าเครือญาติของหล่อนก็เป็นถึงนายตำรวจ1หญ่■..ใหญ่กว่าอีตานี''แน่นอน
•ฉันขอดูบัตรประจำตำแหน่ง จะได้รู้ว่าคุณน่ะเป็นตำรวจจริงหรือปลอม มีมั้ย" แกล้งตีรวนหน้าตาเฉย
ได้ผล...เมื่อบุรุษนายนั้นชะงัก แต่เพยงชั่วครู่ก็หยิบบัตรประจำตำแหน่งจาก กระเปาสตางค์ใบจิ่วที่กาซะลองรู้สีกว่าช่างคุ้นตาอย่างเหลือเกินออกมายื่นให้เห็น ตรงหน้า
คราวนี้กาซะลองเป็นฝ่ายชะงักบ้างเมื่อปรายตาไปเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่ บนนามบัตรนั้นอย่างชัดเจน 'ร.ต.อ. ศกร ศุภเศรษฐ์'
มือแข็งแรงเอื้อมขึ้นไปถอดแว่นดำอันนั้นออก ขณะประสานสายตากับหล่อน
"พอจะเชื่อถือได้มั้ยครับ คุณกาซะลอง" จักรยานล้อโต
เหมือนจะเห็นรอยยิ้มยั่วในแววตานั้น ริมฝีปากเต็มอิ่มเม้มเข้าหากัน อย่างโกรธจัด นิ่กิ่ปีแล้วหนอที่ไม่ใต้เห็นหน้าตาบ้าบอกวนประสาทนี่ อีตาศกร อีตาบ้า อีตาสารผัด...ตามมารังควานฉันอีกแล้ว
นี่คงจะหัวเราะเยาะความเบิ่'นเฟอะของฉันอีกล่ะสิ.'
"ต้นไม้มันขวางถนนอย่างนี้ รถของคุณคงยังไปต่อตอนนี้Iม่ได้ ผมว่าคุณ ไปพักที่ป้อมตำรวจก่อนดีมั้ย ให้เจ้าหน้าที่เขาจัดการให้เรียบร้อยก่อน แล้วจะ ไปไหนค่อยไป"
รู้หงรู้วาหล่อนจะใปใหน ยังจะมากวนประสาทอยู่ใด้
"นานมั้ย" ถามเสียงห้วนและกวนประสาทกลับไปบ้าง "เพราะฉันไม่ชอบ คอยอะไรนานๆ"
"ก็...แล้วแต่ความร่วมมือของคุณ" จักรยาน fat bike
กาซะลองค้อนขวับ สุดท้ายเขานั่นแหละที่ถือไพ่เหนือหล่อน...เช่นเคย "แล้วฉันต้องทำยังไง'
ทีไปชนกับสิงกีดขวางเข้าอย่างจัง
หญิงสาวนั่งตัวสั่นด้วยแรงตระหนกก่อนจะเรียกสติคืนพร้อมทั้งฉวย โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นมาโดยเร็ว แต่เพียงชั่วครู่ที่เจ้าเครื่องสือสาร อันจิ๋วต้องมีอันระเห็จกลับไปนอนแอ้งแม้งอยู่ที่เดิม
"โธ่ถัง! ไหนคุยนักหนาว่าโทรได้ทุกสารทิศ แคนก็เจ๊งชะแล้ว ประเดี๋ยว กลับไปก็โละซะหรอก"
ปนออกมาด้วยแรงหงุดหงิด ลืมนึกถึงไปว่า 'แค่นี้, ที่พูดออกมานั้น เข้าส่เขตจังหวัดเชียงรายเหนือสุดของประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้ว
มือเรียวงามเคาะลงบนพวงมาลัยขณะใช้ความคิด แต่ดูเหมือนเมื่อความมืด ยิ่งปกคลุม เจ้าตัวก็ยิ่งจะคิดไม่ออกด้วยใจมัวไปจินตนาการถึงละครหลากหลาย เรื่องที่เคยเล่น ทั้งภูตผีปีศาจและฆาตกรรม จนอดคิดไม่ได้ว่าท่ามกลางสายฝน ที่เทกระหนํ่าในบรรยากาศของแสงสว่างริบหรี่ หากปรากฏสิงที่เหนือธรรมชาติ โผล่ออกมาเหมือนในละครหล่อนจะทำอย่างไร
"น่าเขกกะโหลกตัวเองแท้ๆ เลย ปีบนะปีบ เมื่อไหร่เธอจะหายอาการ ใจร้อนแบบนี้ซะที" ปนตัวเองอย่างโกรธๆ ด้วยรู้นิสัยตัวเองดีว่าขบวนการใจร้อน ไม'มีใครเกิน...แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อความฝืนเมื่อคืนมันช่างน่าหวาดกลัว...
ภาพที่คุณยายนอนจมกองเลือดอยู่บนเตียงท่ามกลางข้าๆของที่กระจัด กระจายยังติดอยู่ในใจไม่เลือนราวกับเป็นความจริง หนำซํ้าโทรศัพท์ยังติดต่อไม่ ได้ มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติวิสัยเพราะหล่อนกับคุณยายมักจะโทรศัพท์คุยกัน อยู่ตลอด อย่างน้อยอาทิตย์ละสองสามครั้ง...แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้น
มีอะใรเกิดขึ้นที่คุ้มภูคากาซะลอง จักรยาน
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เหมือนกับทุกครั้งที่อยู่ในสภาวะยุ่งยากใจ ฉับพลันต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อกระจกรถถูกเคาะปังๆๆ เร็วราวกับอัตโนมัติที่กาชะลองหยิบกระบอกปีนด้ามจิ๋วซึ่งซ่อนอยู่ใน กระเป้าถือมาถือไว้กับตัว พร้อมทั้งหันขวับไปยังต้นเสียง
ท่ามกลางกระจกที่ฝ็ามัว หล่อนเห็นบุรุษสองนายนั่งอยู่บนมอเตอร1ชค์ คันโต ทั้งคู่ช่อนกายอยู่ในเสิอกันฝนสีหม่นที่คลุมไว้ตั้งแต่สีรษะจรดปลายเท้า เห็นเพียงใบหน้าที่โผล่พ้นผืนผ้ายางออกมาเพียงเล็กน้อย แต่กระนั้นดวงตาของ
จักรยาน

"นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาช่วย"

ทั้งคู่ก็ถูกซ่อนอยู่ในแว่นกันแดดอันโตจนมองไม่เห็นถึงแๆวตๅที่9ๅจทําให้หล่อน เดาอะไรๆ ออกได้
"มีอะไร" หล่อนถามเสียงห้วน แต่ดูเหมือนคนที่อยู่ภายนอกจะไม่ได้ยิน เพราะเสียงฟ้าฝนที่ก้องคำรามรวมทั้งถูกปิดกั้นด้วยกระจก ท้ายสุดร่างสูงใหญ่ ของคนที่นั่งช้อนหลังจึงต้องก้าวลงมาจากรณเละเคาะกระจกหล่อนโดยแรง
"เปิดกระจกก่อนคุณ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ"
จากม่านกั้นของกระจกรถเหมือนจะอ่านความหมายได้อย่างนี้ กาชะลอง อ้าปากหวอ ชิ! ใครจะเชื่อ หน้าตาอย่างกับผู้ต้องหา ถนนหนทางก็เงียI/อย่างนิ้ ขืนเปีดลงไปก็บ้าแล้ว
หล่อนส่ายหัวดิก บุรุษนั้นเกาหัวยิกทั้งที่สีรษะปกคลุมด้วยหมวกเสือกันฝน
"นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาช่วย" จักรยานล้อโต
กาซะลองเฉย คนสมัยนIว้ใจกันได้ที่ไหน หล่อนยังไม่อยากเป็นข่าว หน้าหนึ่งว่านางเอกชื่อดังถูกฆาตกรรมอ^บนทางเปลี่ยว "เปิดกระจกนิดนึงกั๊ได้ ผมไม่อยากตะโกน" กาชะลองยังคงเฉย
"อุวะ!" เขาทำท่าอ่อนใจ ก่อนบุ้ยใบไปทางด้านหลัง กาซะลองเอี้ยวตัวหัน ไปมองตาม ที่นั่นหล่อนเห็นรถกระบะคันเก่ามีโลโก้ของกรมตำรวจอย่างชัดเจน
และมีไซเรนติดไว้อย่างเด่นชัด แต่อย่างว่า คนสมัยนั๊[ว[จกันได้ที่ไหน รถของ หล่อนก็ยังใหม่ ตัวหล่อนเองก็เป็นแค่ผู้หญิงตัวคนเดียว จักรยาน fat bike
อาการหน้าเชิดจึงเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ...กำปืนในมือแน่น อะไรจะเกิดก็เกิด
หล่อนจะสู้ยิบตา! "นี่คู้ณ"
กาซะลองว่าหล่อนได้ยินเสียงเขาตะโกนอย่าง...แรง "นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาช่วย จะให้ช่วยรึเปล่า"
เอ๊ะ พูดแมวๆ อย่างนี้ก็สวยสื ผู้พิทักษ์กันติราษฏร์มาพูดกับประชาชน
อย่างนIด้อย่างไร หญิงสาวค่อยๆ เลื่อนกระจกลงแต่ก็เพียงนิดเดียว ก่อนตะโกน ตอบไปว่า "แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าคุณเป็นตำรวจจริงหรือปลอม' จักรยาน
"คนที่นี่เขาไม่โกหกกันหรอกคุณ ไม่เหมือนพวกที่ค้าเงา เอะอะๆ ก็เอา
ฝนที่เทกระหนํ่าลงมาอย่างไม่ลืมหูลีมตาไม่ก่อให้เกิดความประหวั่น พรั่นพรึงแก่ผู้ที่กำลังห้อรถมาด้วยความเร็วสูงแต่อย่างใด เนื่องด้วยยี่ห้อของรถคัน นั้นบ่งบอกให้รู้ถึงความพิเศษของเครื่องยนต์สมรรถนะดีเยึ่ยมที่เพิ่งอิมพอร์ตมา จากต่างประเทศ ซึ่งในเมืองไทยมีอยู่เพียงไม่กี่คัน และด้วยสนนราคาที่แพง ระยับจึงทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ว่าอย่างไรเสียเจ้ารถคันนี้คงพาไปถึงที่หมายได้ อย่างปลอดภัย
แต่บรรยากาศเมื่อยามอาทิตย์อัสดงและความมืดครึ้มที่เริ่มโรยตัวลงอย่าง รวดเร็วนั่นต่างหากที่ทำให้คนที่อยู่ภายในต้องห่อตัวเข้าหากันด้วยความหวาดหวั่น ดวงตายาวเรียวกวาดมองไปตามสองข้างทางที่เงียบสงบ•••เงียบจนน่าสะพรึง เพราะมีแต่ต้นไม้เขียวครึ้มขึ้นอยู่ และไร้ชึ่งผู้คนสัญจรรวมทั้งพาหนะขับผ่าน แทบไม่น่าเชื่อว่า ณ ที่แห่งเดียวกันนี้หล่อนจะเคยชื่นชมพิสมัยยามเมื่อยังเยาว์วัย แต่นั่นก็ยังไม่ร้ายเท่ากับสายฟ้าสว่างที่ฉายแสงวาบลงมาส่พี้นดินอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียงกึกก้องกัมปนาท ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นที่ต้นไม้ใหญ่ข้างทาง ล้มครืนลงมาขวางถนน กาซะลองหวีดร้องขึ้นมาสุดเสียง และโดยอัตโนมัติที่ หล่อนเหยียบเบรกรถโดยทันที แต่แม้กระนั้นก็ยังรู้สืกถึงแรงกระแทกของตัวถัง
จักรยาน fat bike

ค่าใช้จ่ายอะไรขึ้นมา

ในชีวิตการทำงานที่เป็นจริง มีคนอยู่จำนวนหนึ่งครับเป็นพวก ลัทธิเถรตรง
ฝ่ายเร่งรัดหนี้สินที่ติดตามทวงหนี้จากลูกหนี้ลูกหนIม่จ่ายเงิน ตามกำหนด เขาก็ตัดชื่อออกจากบัญชีลูกค้าทันทีโดยไม่ยอมหาวิธี ผ่อนปรนอะไร
ฝ่ายเก็บเงินลูกค้า กะเกณฑ์ให้ลูกค้าต้องจ่ายเงินเป็นเช็ค อย่างเดียว ลูกค้าจะจ่ายเงินสดก็ไม่ยอมรับ
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลพบว่าพนักงานมีความผิดอะไรก็ตามต้องใช้ กฎระเบียบบริษัทเล่นงานพนักงานทันทีทันควัน
ฝ่ายจัดส่งสินค้าจะขอส่งของให้ลูกค้าด้วยวิธีการเดียวเท่านั้น ซึ่งช้าไม่ทันความต้องการของลูกค้า แทนที่จะหาวิธีส่งอย่างอื่นที่รวดเร็ว กว่าไต้
ฝ่ายบริการไม่ยอมบริการอะไรให้ลูกค้านอกเหนือจากบริษัท ให้ทำทั้ง ๆ ที่สามารถทำไดโดยไม่ไต้เพิ่มค่าใช้จ่ายอะไรขึ้นมา จักรยานล้อโต
นี่คือลัทธิเถรตรงที่ทำลายสัมพันธภาพระหว่างผู้ขาย กับ ผู้ซึ้อ ระหว่างบุคคลต่อบุคคล ระหว่างบริษัทต่อบริษัท
ในการทำงานที่เป็นจริง มักมีรายละเอียดวิธีการต่าง ๆ ที่อาจ อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่กำหนดไว้และมักจะมีสถานการณ์ใหม่ ที่ต้องใชวิจารณญาณซึ่งแตกต่างไปจากกฎเกณฑ์ที่วางไว้เดิม
กรรมการผู้จัดการของบริษัทหนึ่งหัวเสียเอามาก ๆ กับบรรดา ผู้จัดการฝ่ายทั้งหลายที่มาทำงานสายกันเป็นประจำ เขามาถึงที่ทำงาน ตอน ๙.๓๐ น. ปรากฏว่าลูกน้องมากันเพียง ๒-๓ คน จากจำนวน พนักงานทั้งหมด ๑๘ คน
พอเข้มงวดกวดขันกันที ก็มาเช้ากันสักพักแล้วก็เช้ารูปเดิมอีก เหตุที่ลูกน้องมาสายไม่ใช่อะไรอื่นครับ เป็นเพราะผู้จัดการก็ จักรยาน fat bike
มาสาย
มีเหตุแก้ตัวกันไปเป็นทอด ๆ
ถามว่าความผิดอยู่ตรงไหนก็ควรตอบว่าอยู่ที่ผูใหญ่ไม่ทำตน
เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกน้อง จักรยาน
ผมได้สังเกตพฤติกรรมของบุคคลในองค์การหลาย ๆ แห่ง
ได้พบความเป็นจริงว่า บรรยากาศในการทำงานจะดีหรือไม่ จะมีชีวิตชีวา
หรือไม่ อยู่ที่ด้นแบบคือผู้Iหญ่ในบริษัทนั้น ๆ นั่นเอง ผูใหญ่มาสาย ลูกน้องมาสายด้วย ฝูใหญ่เฉื่อยงาน ลูกน้องเฉื่อยงานด้วย ผู้ใหญ่ไม่รับผิดชอบ ลูกน้องก็ไม่รับผิดชอบด้วย ผู้Iหญ่โยนความผิดให้ผู้อื่นเป็นประจำ สูกน้องก็ทำอย่างนั้นด้วย ครั้นผูใหญ่กระฉ้บกระเฉงปีชีวิตชีวา ลูกน้องก็สดชื่นกระปรี้
กระเปร่าด้วย
จักรยานล้อโต

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สูดความหอมบางเบา

ตัว หรือคุณยายจะเป็นห่วงจึงมาเฝัาวนเวียนห่วงใย ผุดลุกขึ้นทันที ไม่ได้มีแม้ ความหวาดหวั่น ไม่ได้เกรงกลัวสักนิดหากคุณยายจะมาปรากฏร่างให้เห็นตรง หน้า กาซะลองวิงวอนอย่างโหยไห้
"คุณยายคะ คุณยายอยู่ที่ไหน คุณยายออกมาหาปีบสิคะ" เหมือนจะมี ความหวัง แต่ทุกสิงรอบตัวกลับมีแต่ความว่างเปล่า ยินเพียงเสียงหรีดหริ่งเรไร ไล่เสียงกันมาจากเนินเขา
ลมหนาวโชยมา แต่ร่างบางกลับมิได้สั่นสะท้าน ด้วยนํ้าอุ่นๆ ไหลลงมา จากดวงตาคู่สวยเป็นทาง คุณยายอยู่ที่ไหนหนอ ทำไมไม่คิดถึงปีบบ้างเลย ทรุดตัวลงนอนที่เตียง ฉวยผ้าห่มผืนหนามาคลุมร่าง เพียงสัมผัสแรกหญิงสาวก็ รับรู้ถึงความอบอุ่น กลิ่นคุ้นเคยกรุ่นกลิ่นอยู่ปลายจมูก กาซะลองแนบหน้าลง กับผ้าเนี้อนุ่ม สูดความหอมบางเบา
คุณยายขา ปีบคิดถึงคุณยายเหลือเกินค่ะ จักรยานล้อโต
เหมือนเวลาจะผ่านไปนานแสนนานในห้วงนิทรานั้น มารู้สืกตัวอีกทีเมื่อมี สัมผัสอ่อนนุ่มแตะลงตรงดวงหน้า รอยสัมผัสที่ช่างอบอุ่นเหลือเกิน หญิงสาวยิ้ม ละมุน ริมฝืปากเต็มอิ่มพึมพำ
คุณยาย...คุณยายมาหาปีบแล้วใช่มั้ยคะ
สองมือเรียวไขว่คว้าไปมาในอากาศ มันไม่ได้ว่างเปล่า เมื่อกาซะลองสัมผัส ถึงเนื้ออุ่นๆ นุ่มๆ หล่อนบีบกระชับมือผอมเกร็งไว้แน่น แนบหน้าลงอย่างหวง แหน ปีบจะไม่ยอมให้คุณยายไปไหนอีกแล้ว คุณยายอย่าทิ้งปีบไปนะคะ! จักรยาน fat bike
ในความรู้สีกรางเลือน เหมือนมีนื้าอุ่นๆ หยดลงมาสัมผัสที่ดวงหน้า แต่ในยามนี้กาซะลองไม'ได้สนใจ ด้วยว่าความอบอุ่นจากมือนุ่มคลายความกังวล ได้ทุกอย่าง
สำหรับกาซะลอง นิทรานี้ซ่างอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความรักเหลือเกิน
นายแพทย์สฤษด์คุณฟังคำบอกเล่าของมารดาด้วยอาการนิ่งเฉย เหตุการณ์ หลายอย่างที,เกิดขึ้นทำเอาแม่ชักเพี้ยน โม่อยากเชื่อว่าแม่จะรักผูกพันกับคุ้ม ภูคากาซะลองขนาดนั้น โลกเต็มไปด้วยความฉาบฉวย และเขาก็ไม่เคยเห็นแม่ จะชาบซึ้งกับอะไรสักอย่าง ดูเหมือนชีวิตแม่จะมีแต่ความเร่งรีบร้อนรน แม้แต่
เป็นคนที่มืสิทธิที่จะครอบครองต่อคือกาซะลอง ในเมื่อหลานสาวคือคนที่ผู้เป็น ป้าทั้งรักทั้งห่วงมากที่สุด การที่แยกตัวออกจากคุ้มมานาน เขากับแม่ไม่มืสิทธิ แม้แต่จะคิด
คุณพันธุรพีได้แต่นิ่ง ที่ลูกชายพูดมันก็ถูก สัทธิการขายคุ้มไม่น่าจะตก มาถึงมือหล่อน
ด้วยนับตั้งแต่แยกตัวห่างออกไปพร้อมกับเงินก้อนโต พี่สาวก็ไม่เคยพูดถึง การเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเรือนไทยหลังใหญ่ อย่างดีก็มีสิทธิเพียงแค่เป็นน้องสาว เจ้าของคุ้มที่ทำให้คนนับหน้าถือตาขึ้นมาหน่อย
ถอนหายใจออกมาเฮือก หล่อนเองก็เพิ่งโปอาละวาดกาซะลองเรื่องชายคุ้ม มันคงน่าขายหน้าหากว่าเขาแต่อิเหนาเป็นเสียเอง ส่วนเรื่องเผาคุณปรียางค์ศรี นั่นยิ่งแล้วใหญ่ หลานสาวรักผู้เป็นยายมาก กาชะลองคงไม่ยอม แต่เรื่องแบบ นี้มันน่าลองสักตั้ง อย่างน้อยก็เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย โดยเฉพาะตัว หล่อนและสฤษด์คุณ มรดกของผู้เป็นพี่ตกเป็นของน้องของหลานยังดีกว่าให้ ไอ้หน้าปลาจวดลูกชายท่านรัฐมนตรีชุบมือเปีบ ก็คงจะต้องรอ จนกว่ากาซะลอง จะกลับมา และถึงตอนนั้นหล่อนคงต้องพูดกับหลานสาวใหม่
แม้จะมีความหวังรออยู่เพียงริบหรี่...แต่มันก็ต้องลอง จักรยาน
มันเป็นเวลาเกือบตีสามเมื่อศกรหยิบนาฟิกามาดู ลมหนาวพัดเย็นจน ไหล่สะท้านแม้จะห่อหุ้มร่างกายไว้ด้วยเสือตัวหนา ร่างสูงใหญ่กระชับเสื้อกันหนาว ตัวโคร่งให้แน่นเข้า อดคิดไปถึงคนที่นอนอยู่ที่บ้านเชิงเขาไม่ได้ ปานนี้หล่อนจะ เป็นอย่างไร จะนอนหลับบ้างไหมในเรือนหลังเล็กที่ไม่คุ้นเคย
ร่องรอยเศร้าหมองในดวงตาโหวงเหวงสะกิดให้เขาอาทรไม่รู้หาย เหมือน ไม่มืลิ'งใดเลยที่จะมาลบล้างความทุกข์ชองหล่อนได้ นอกจากการฟืนคืนชีวิตของ คุณปรียางค์ครี
ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ปาฏิหาริย์ การฟืนชีวิตของคนตายดูจะเป็น ไปไม่ได้ แต่หากจะเกิด ความจริงมันก็คือความจริง
เสียงกริ่งโทรตัพท์กรีดร้องขึ้น นายสิบที่นั่งหาวหวอดๆ อยู่กับโต๊ะผวา ลนลานจะลุกไปรับ แต่ไม่ทันผู้กองร่างใหญ่ที่กรอกเสียงลงไปทันควัน
จักรยาน

เมือดีคงเรื่องใหญ่

"สภอ. ภูคำ ผม ร.ต.อ. ศกร ศุภเศรษฐ์ ยินดีรับใช้ครับ" นุ่มนวลหนักแน่น แต่ปลายสายที่ตอบมาทำเอาคิ้วเข้มขมวด
"ชะ...ช่วยด้วย ฉะ...ฉันถูกทำร้าย ชะ...ช่วยด้วย" เสียงแหบพร่าคล้าย สตรีมีแววโหยไห้ เสียงสะอื้นแทบจะกลบเนึ้อเสียงที่แท้จรํง แรงหวาดหวั่นตระหนก ขาดเป็นห้วง ศกรรีบกดเรคคอร์ดตัวเทปที่พ่วงติดกับโทรศัพท์ สิบเวรที่ทำท่าจะ หลับมิหลับแหล'หายง่วง เผ่นผลุงมายืนข้างผู้กองที่กำลังยืนหน้าเครียด "ใคร ทำร้ายคุณ"
"ฉันบอกไม่ได้ คุณตำรวจรีบมาเถอะค่ะ มาช่วยฉันด้วย" "ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน"
ปลายสายบอกสถานที่ก่อนยํ้า "ผู้กองมาคนเดียวนะคะ ถ้าตำรวจมากัน หลายๆ คน ดิฉันต้องตายแน่ๆ ค่ะ"
สิบเวรตาเหลือก ไม่มีเวลาลุ้นเมื่อได้ยินผู้กองบอกชัด "ได้ ผมจะไปเดี๋ยวนี้" "เอาอย่างงั้นจริงเหรอครับผู้กอง"
ทันทีที่วางสายสิบเวรก็ถามเสียงรัว กิตติศัพท์ความใจเด็ดของผู้กองศกร รู้กันถ้วนทั่ว จะเสี่ยงอันตรายแค่ไหนไม'เคยกลัว ขอให้ประชาชนปลอดภัยเท่านั้น จักรยานล้อโต
พอ แต่อย่างนี้ก็1ม่นา... โจรผู้ร้ายเดี๋ยวนี้มันไว้ใจได้ที่ไหน แผนพิษสารพัด ผู้กอง
ศกรยิ่งตงฉินอยู่ด้วย ใครเจ็บใครแค้นบ้างก็ไม่รู้ เผื่อผิดพลาดขึ้นมาเสียนาย
ตำรวจ?เมือดีคงเรื่องใหญ่
"ผมว่าให้พวกเราไปช่วยด้วยดีกว่า ตามไปก็ยังดี" เดาใจไม่ถูกเมื่อผู้กอง
มาดเข้มยังยืนเฉย ตามองไปที่เทปเครื่องจิ๋วพลางออกคำลัง
"จ่าช่วยเอาเทปไปให้ผู้กองธีรัชดูดีกว่า ผมคิดว่ามันน่าจะมีอะไร" "มีอะไรหรือครับ" สายตาของสิบเวรบอกความฉงนสงสัยเต็มแก่ แต่ผู้กอง
ร่างใหญ่ไม่ตอบ ร้อยตำรวจเอกศกรเพียงบอกสันๆ
■จัดการอย่างที่ผมสั่งแล้วกัน ส่วนเรื่องนี้ผมจัดการเอง"
ร่างสูงใหญ่เดินตุ่มๆ ไปยังรถคู่ใจ ครุ่นคิดไปถึงนี้าเสียงสันเครือหลุดหาย
เป็นช่วง เนี้อเสียงแหลมเล็กปน?1เด้วยความแหบพร่า ความตระหนกลนลาน ชัดเจนจนไม่เหลีอเค้าของความหวาดหวั่นเกรงกริ่งในอันตราย ด้วยประสบการณ์ การทำงานมานานปี ลางสังหรณ์บางอย่างส่งสัญญาณมาเตือนอย่างเงียบๆ
ผุดขึ้นเป็นระลอก เหตุ1ดบุรุษผู้นั้นถึงได้กลายเป็นดิสธร!
กาชะลองนั่งฟังอย่างนิ่งสงบ แต่คำถามก็เกิดขึ้นมากมายไม่แพ้กับศกร เหตุโดดิสธรถึงต้องทำอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ลูกชายฟานรัฐมนตรีไม่ได้มีเรื่องบาดหมาง กับร้อยตำรวจเอกศกรมาก่อน
หญิงสาวจรดสำลีเนื้อนุ่มชุบแอลกอฮอล์เช็ดแผลตรงบริเวณปลายคางของ เสียวหน้าคมอย่างแผ่วเบา เลือดสดๆ ยังซึมออกมาอยู่ตรงบริเวณบาดแผล พยายามที่จะไม่รบกวนร่างสูงใหญ่ที่นอนผ่อนลมหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย เหมือนเขาจะครุ่นคิดอะไรอยู่ จักรยาน fat bike
"มันน่าสงสัยใช่มั้ยคะ ทำไมดิสธรถึงต้องทำร้ายคุณ"
ตาต่อตาสบกันและศกรก็เห็นคำถามในดวงตาคู่สวย หล่อนก็คงแปลกใจ ไม่แพ้เขา ด้วยว่าบุรุษนั้นเหมือนจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นจนเป็นมูลเหตุ ให้ต้องวางแผนทำร้าย และด้วยท่วงท่ารูปลักษณ์ที่เห็น ใครคนนั้นไม่น่าจะเป็น ลูกชายคนเดียวของท่านรัฐมนตรี
เหมือนกาซะลองจะล่วงรู้ว่าผู้กองหน้าเข้มกำลังมีเรื่องที่ปิดบังหล่อน หญิงสาวเค้นเสียงเข้ม
"บอกฉันมานะคะ ว่าคุณคิดอะไรอยู่ ห้ามปิดบังฉัน 'ทุกเรื่อง' เหมือน อย่างที่คุณเคยปิดบังฉัน" หน้างองา ริมฝีปากเต็มอิ่มยื่นออกมาอย่างขัดใจ ยิ่ง คิดขึ้นมาก็ยิ่งอยากทุบคนที่นอนเจ็บอยู่ตรงหน้า คนบ้า เล่นอะไรไม่รู้พิเรนทร์
"คุณรู้มยคะ แผนบ้าแผนบอของคุณทำเอาฉันใจแตกสลายนอนร้องไห้ ไม่รู้กี่คืนต่อกี่คืน นะคะ ครั้งนี้มีอะไรคุณต้องบอกฉัน ไม่งั้นคุณเจ็บจริงๆ ด้วย"
ศกรฉวยมือนุ่มที่ทำท่าจะเงื้อหมัดมาตรงหน้า หน้าคมเข้มยิ้มอ่อน ความ อ่อนหวานนับวันยิ่งจะเกาะกุมหัวใจเขาแนบแน่น ชายหนุ่มบีบมือน้อยนั้นเบาๆ จักรยาน
"ผมขอโทษ แต่ผมก็คิดว่ามันคุ้มนะเพราะตอนนี้เราเริ่มเดินมาถูกทางแล้ว"
กาชะลองถอนมือออก แววตาเขาบ่งบอกความนัยจนไม่กล้าแม้แต่จะสบตา หญิงสาวกล่าวอ้อมแอ้ม "งั้นบอกฉันได้มั้ยคะว่าคุณสงสัยอะไรเกี่ยวกับดิสธร"
"ผมไม่ได้สงสัยอะไรคุณดิสธรเลยนะ และคิดว่าเรื่องนี้เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยว ข้องด้วย"
จักรยาน fat bike

"มีใครอยู่มั้ยครับ"

สตรีนางนั้นไม'น่าจะตกอยู่โนอันตรายอยางแท้จริง บาง3งเพมีอนจะมีเงื่อนงำ
ไม่อาจบอกได้ว่าเกี่ยวกับตัวเขาเองหรือกาซะลอง!
รถทะยานไปเบื้องหน้าฝ่าม่านทึบของหมอกขาวและอากาศที่หนาวเหน็บ ฝีาขาวจับตัวเป็นกลุ่มเห็นราวกับเงาปีศาจกำลังเคลื่อนไหวไปมา เพียงแวบที่เงาเงา หนึ่งเคลื่อนผ่านหน้ารถไปอย่างรวดเร็ว ศกรแตะเบรกกะทันหัน ค่อยโล่งอกเมื่อ สังเกตเห็นกิ่งไม้แห้งหล่นห้อย นึกขำที่ความกังวลทำให้เป็นไปได้ถึงเพียงนี้ ค่อยสลัดความกังวลทั้งหมดและเร่งเครื่องยนต์ให้ทะยานไปเบี้องหน้าเร็วยิ่งขึ้น
ชั่วครู่รถคู่ใจก็พามาถึงสถานที่ที่แจ้งเหตุ ร่างสูงใหญ่พาตัวเองเดินสำรวจ รอบๆ บริเวณอย่างระแวดระวัง ท่ามกลางความมีดมิดแห่งราตรีกาล ดวงตา คมกริบแลเห็นบ้านไม้หลังเล็กที่ช่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้หนาทึบนานาพันธุ ความ อึมครึมของบรรยากาศเหมือนจะยิ่งทำให้บ้านน้อยหลังนั้นดูวังเวง
ศกรจรดฝีเท้าเข้าไปภายใน ความเงียบสงัดยิ่งทำให้ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น ไม่มีวี่แววของการต่อ3ทำร้าย ทุกอย่างปกติไม่มืวี่แววของผู้อยู่อาศัยเลยด้วยซํ้า จักรยานล้อโต
เหมือนจะจริงดังคาด เหตุการณ์นี้น่าจะมีเงื่อนงำ
"มีใครอยู่มั้ยครับ"
ท้ายสุดก็ตัดสินใจตะโกนถาม แต่ที่สะท้อนกลับมาคือเสียงของตัวเอง ยินเสียงฝีเท้ากระทบพื้นแผ่วเบา ศกรหันขวับแต่ยังช้ากว่าท่อนไม้ขนาดเขื่องที่ ถูกเหวี่ยงเข้ามา ร่างสูงใหญ่กระโดดหลบ แต่กระนั้นท่อนไม้ก็ยังฟาดเข้าที่ไหล่ อย่างจังพร้อมกับบุรุษร่างกำยำถลันเข้ามา
สัญชาตญาณแห่งการป้องกันตัวบอกให้ผู้กองหนุ่มต้องต่อสู้ ไม่มีการ ยั้งมือด้วยต่างฝ่ายต่างต้องการเป็นผู้ชนะ แต่กระนั้นร้อยตำรวจเอกศกรยังรู้สีก ถึงความไม่จริงจังในการต่อสู้ เหมือนอีกฝายจะพยายามหลบเลี่ยงและพยายาม ทีจะหนีอยู่ตลอดเมื่อรู้ตัวว่าต้องตกเป็นผู้ฟายแพ้อย่างแน่นอน จักรยาน fat bike
แวบหนึ่งที่ความคิดหนึ่งบังเกิด ศกรผลักร่างกำยำนั้นออกพร้อมกับสวน กำป้นออกไป มันกระทบกับปลายคางของอีกฝ่ายอย่างจังพร้อมกับร่างหนานั้น ทำท่าจะทรุดแต่ยังแข็งใจลุกขึ้น ชั่ววินาทีที่ศกรเห็นเสียวหน้านั้น
ตะลึงไปครู่เมื่อเห็นใบหน้าขาวผ่องนั้นชัดเจนและอีกฝ่ายก็รีบฉวยโอกาส หนีหายไปกับความมืดอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ผู้กองหนุ่มยืนนึ่ง คลื่นความสงลัย
"แล้วที่เขามาทำร้ายคุณ"
"ผมคิดว่าอาจจะไม่ใช่เขา ดิสธรมีรูปร่างผอมบางออกจะติดก๊องแก๊ง เสียด้วยซํ้า แต่คนที่มาทำร้ายผม เขาตัวกำยำสูงใหญ่ ความแข็งแรงผิดกันเยอะ, "แต่คุณบอกฉันว่าคุณเห็นเป็นดิสธร" "สิงที่เห็นอาจไม่ใช่ เรื่องที่รู้อาจไม่จริง"
"นี่มันไม่ใช่หนังไม่ใช่ละครที่ฉันเล่นนะคะ จะได้ลึกลับซับซ้อนขนาดนี้" ค้านเสียงอ่อย ชีวิตที่โลดแล่นอยู่กับการแสดงทำให้มองภาพเหล่านี้แทบไม่ออก ความว่นวายซับซ้อนเหมือนจะห่างจากชีวิตจริง เหมือนจะรู้ ผู้กองหน้าเข้มยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก
"บางทีชีวิตจริงกับการแสดงก็แยกกันแทบไม่ออก คุณไม่เคยได้ข่าวหรีอ ที่ผู้ร้ายขนยาเสพติดผ่าตัดสัลยกรรมใบหน้าเพื่อที่จะหลบหนีออกประเทศนั้นเข้า ประเทศนี้" จักรยาน
"นั่นมันจำเป็นนี่คะ แต่คนที่มาทำร้ายคุณ เขาจะ 'ลงทุน' ผ่าตัดหน้าขนาด นั้นเชียวหรือ"
อยากจะชำกับก้อยคำชองหล่อน   แต่คนที่อ่อนประสบการณ์เกี่ยวกับIจ'3
ผู้ร้ายมักคาดไฝถึง คนที่8นดานเป็นโจรทำอะไรได้มากกว่านั้น
"ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมเพียงแต่คิดว่าเรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำ
คนก่อเหตุอาจจะต้องการโยนความผิดให้กับดิสธร" ''เพื่ออะไรคะ"
"นั่นแหละคือสิงที่เราต้องค้นหาคำตอบ"
เป็นสิงที่เกินความคาดหมายและกาซะลองก็ได้แต่นั่งนิ่งๆ ความสับสน รุมเร้าจนยากทีจะทำสิ'งโด หล่อนเริ่มคลำทาง1ม่ถูก จุดประสงค์ชอง1ครคนนั้น ต้องการอะไรกันแน่
"แล้วฉันต้องทำยังไงคะ,
"ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ทำตัวให้เป็นปกติ คนที่เรากำลังตามหาเขาอาจ อยู่ไม่ไกล"
จักรยานล้อโต

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ศกว่าปีบกับคุณดิสธรเขาจะไปกันรอดมั้ยคะ

กับศกไว้นะว่าอยากไปนํ้าตกขุนกรณ์ เห็นเขาว่าสวย แต่ถ้าปีบกับคุณดิสธรอยาก ไปดอยแม่สลองก่อนก็ไม่เป็นไรนะ ตามสบายจ้ะ แล้วเจอกันนะคะคุณดิสธร' ประโยคหลังหันมาพูดกับหนุ่มหน้าตี๋ ดิสธรรับคำอย่างกระตือรือร้น แต่ตาแทบ ไม่ได้มองที่ศรานตาเลย ตาเรียวตี่กลับจ้องอยู่ที่หน้าสวยใสของแพรสา
เด็กอะไร ยิ่งมองก็ยิ่งสวย! จักรยานล้อโต
แสดงออกอย่าง^ดเจนขนาดนี้จึงไม่แปลกที่พยาบาลสาวจะจับเป็นหัวข้อ สนทนา เมื่อผู้กองหนุ่มขับรถแล่นออกมาจากคุ้มภูคากาซะลองได้ไม่นาน
"น่าเห็นใจปีบจังนะคะ ยืนหน้าตูมเชียว คุณดิสธรเล่นจ้องเด็กในบ้านไม่
วางตา"
คนขับทำหูทวนลม ทำไมจะไม1เห็น ในเมื่อคุณเธอปีนทำหน้าบฎกบุญ ไม่รับ คงจะยอกแสลงหัวใจ8ท่า ที่หนุ่มคู่รักไปสนใจหญิงอื่น แถมหญิงคนนั้น ยังเป็นเด็ก ในอาณัติปกครอง
"ศกว่าปีบกับคุณดิสธรเขาจะไปกันรอดมั้ยคะ"
"ไม่รู้สิครับ ผมไม่ค่อยลันทัดเรื่องแบบนี้เท่าไหร่" ปฏิเสธ แต่ในใจแอบคิด
สาธุ ขอใหIปไม่รอด จะได้... รีบหยุดความคิดที่กำลังจะเกิด จะเป็นไปได้ อย่างไรในเมื่อเจ้าหล่อนเกลียดเขาอย่างกับอะไรดี เจอหน้าทีไรต้องทำหน้าหงิก หน้างอ แถมมีแต่คำว่าเจ็บๆ แสบๆ คันๆ ตั้งแต่ตัวเท่ากำปีนจน1ต
แต่ในสายตาเขา...แม่ลูกเป็ดขี้เหร่คนนี้ก็ยังน่ารักฎยู่ดี จักรยาน fat bike
ศรานตาเอนหลังพิงเบาะตามสบายเลยไม่ได้สังเกตเห็นอาการเผลอยิ้มของ ผู้กองหนุ่ม พยาบาลสาวพูดต่อราวกับกำลังถกถึงเรื่องสำคัญที่ต้องการหาข้อสรุป
"อุ๊ว่าปีบกับคุณดิสธรคงไปกันไม1รอดหรอก เอ๊ะ แต่ก็ไม่แน่..." ลังเลไป ครู่หนึ่งก่อนพูดต่อ "เพราะถ้าปีบได้มรดก คุณดิสธรก็เป็นหนูตกถังชัดๆ อุ๊เคย อ่านข่าวซุบซิบไฮโซ เขาว่ายัยคุณหญิงยุพาพักตร์ แม่ของคุณดิสธรพื้นเพก็ไม่ได้ รํ่ารวยเท่าไหร่หรอก อาสัยแต่ตำแหน่งรัฐมนตรีของสามีกู้หนี้ยืมสินเขาไปเรื่อย ดีไม่ดีที่มาจีบปีบนี่อาจจะเป็นแผนก็ได้ เพราะท่าทางคุณดิสธรก็เจ้าชู้จะตาย...เอ แต่มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ ศกว่ามั้ย เด็กแพรสานั่นน่ะก็หน้าตาเด แถมมอง ผาดๆ ยังมีส่วนเหมือนกับปีบอีกด้วย ถ้าบอกว่าเป็นพี่น้องกันก็เชื่อสนิท"
หัวเราะน้อยๆ อย่างสะใจนิดๆ เพราะหากไม่ได้เป็นดาราโด่งดัง ยัย
ตกเป็นหัวข้อการสนทนาดูเหมือนจะอึดอัด ศกรทำเสียงกระแอมขลุกขลักใน ลำคอชวนชายหนุ่มอีกผู้หนึ่งที่อยู่ร่วมโต๊ะคุย
"กะจะมาเที่ยวที่นี่ซักกี่วันครับคุณดิสธร"
"ก็คงดูก่อนฮะ เพราะช่วงนี้คุณยายไม่ค่อยสบาย จะได้อยู่เป็นเพื่อนปีบ" หนุ่มหน้าตี๋ลูกชายท่านรัฐมนตรีที่กำลังเพลินอยู่กับเรื่องกินตอบแบบไม่ทันคิด แต่มีผลทำให้คนฟังคิดไปไกลเรื่อยเปีอย
อืม เป็นห่วงเป็นใยกันจนน่าเตะ!
แต่ชะรอยคนพูดจะไม่ทันรู้ตัว เพราะลูกชายท่านรัฐมนตรียังพูดต่อ หน้าขาว ติ่เอียงไปทางกาซะลองอย่างสนิทสนม "อีกอย่างเชียงรายก็มีที่น่าเที่ยวเยอะ อย่างแม่นํ้ากกผมก็เพิ่งเคยมาครั้งแรก ไม่คิดเลยครับว่าจะสวยขนาดนี้ วันหลัง คงต้องให้ปีบพาไปเที่ยวที่อื่นบ้าง เอาให้ทั่วเชียงรายเลยนะจ๊ะปีบ"
"งั้นวันหลังไปดอยแม่สลองสิคะ" ศรานตาออกความเห็น สีหน้าสาวสวย ดูปกติธรรมดาเมื่อเอ่ยปาก แม้ในใจจะนึกขวางผู้กองหนุ่ม ศกนะศก ทำอย่างนี้ มันเหมือนเป็นการฉีกหน้ากันชัดๆ สาวสวยเจึ้อยแจ้วต่อพยายามควบคุมอารมณ์ ที่กำลังเดือดปุดๆ ภายในไว้ "อุ๊กับศกเคยไปด้วยกัน บรรยากาศดี๊ดีค่ะ แล้วก็ ยังมีของฝากอย่างพวกงานหัตถกรรมของชาวเขาเยอะแยะเลย ถูกๆ ด้วยนะคะ"
หยุดแค่นั้น ไม่ได้บอกต่อว่าครั้งนั้นที่ไปเพราะเป็นงานการกุศลของจังหวัด ที่ทุกหน่วยงานราชการต้องร่วมมือกันในการช่วยเหลือชาวเขาผู้กำลังประสบ กับภัยหนาว หมู่บ้านสันติคีรีเป็นชุมชนผู้อพยพจากประเทศพม่าเข้าเขตไทย จักรยาน
"ไปสะดวกด้วยครับ เป็นทางลาดยางตลอดสาย ยังไงถ้าจะไปเมื่อไหร่ผม จะเขียนแผนที่ให้"
ผู้กองหนุ่มเสริม แม้ในใจไม่ค่อยสนับสนุนที่จะให้ลูกชายท่านรัฐมนตรี หน้าตี๋ไปไหนมาไหนกับแม่ลูกเป็ดขี้เหร่ แต่จะทำไงได้ ในเมื่อนาทีนี้เขาเปรียบ เหมือนเจ้าของบ้าน ก็คงต้องช่วยดูแลกันไป
"ปีบคงไม่รีบกลับใช่มั้ยจ๊ะ" ศรานตาพูดต่อ "เห็นคุณพ่อบอกว่าคุณยาย เพิ่งเชิญมาคุยเรื่องพินัยกรรม" ค้างไว้อย่างนั้น ทำเอาผู้ที่มืส่วนเกี่ยวข้องในบท สนทนาต้องเงยหน้าขึ้นมองผู้พูดเต็มตา
"ทำไมล่ะ คุณยายทำพินัยกรรมก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรานี่"
จักรยาน fat bike

หญิงสาวกลืนนํ้าลายลงคออย่างยากเย็น

"อ้าว ก็ต่อไปปีบต้องเป็นผู้ดูแลมรดกไม่ใช่เหรอ แล้วจะรีบกลับไปทำไมล่ะ" ดิสธรแทบจะกลืนนาลายดังเอื๊อก พยายามไม่แสดงความยินดีปรีดเปรม
ทางสีหน้าและแววตา จริงอย่างที่แม่พูด หากเขาเป็นหนูตกถังข้าวสาร ชาตินี้ทั้ง
ชาติคงสบาย
ต่างกับกาซะลอง หญิงสาวกลืนนํ้าลายลงคออย่างยากเย็น ศ'รานตาเอา เรืองนี้ขึ้นมาพูดกสางวงอาหารนี่ทำไม จักรยานล้อโต
"เรื่องมรดกไม่เกี่ยวอะไรกับเราหรอก อีกซักอาทิตย์สองอาทิตย์เราก็จะ
กลับไปทำงาน" หญิงสาวปฏิเสธ ผลักถ้วยขนมออกห่างตัว สดคอจนกิน1ม่ลง.' ศรานตาทำเสียงอือออในลำคอ แต่ศกรกลับมองหน้าหญิงสาวนิ่งนาน
มรดกกับอุบัติเหตุรถส่วนตัวของคุณบ่รียางค์ครี! มันชักจะยังไงๆ อาหารมี้อนั้นชักไม่อร่อย ดีที่บรรยากาศขณะใกล้พลบคํ่าของริมใ1ากก ช่วยไว้ได้เยอะ จึงทำให้พอจะอิ่มเอมเปรมปรีดิ้ขึ้นมาได้บ้าง เรือลำน้อยพา ผู้โดยสารลอยละล่องชมวิวทิวทัศนIปเรื่อยๆ ก่อนที่จะพากลับไปส่งที่ท่า
ศกรขับรถไปส่งกาซะลองและลูกชายท่านรัฐมนตรีที่คุ้ม โดยมีศรานตานั่ง เคียงข้างด้านหน้า พยาบาลสาวหน้าระรื่นในขณะที่กาซะลองนั่งหน้าเครียด เคืองทั้งเรื่องพินัยกรรม และเคืองกับภาพสวีทหวานแหววของคนบางคู่ แต่ก็นั่งขัดใจอยู่ได้ไม่นานเมื่อชั่วครู่รถก็แล่นมาจอดหน้าคุ้มภูคากาซะลอง แพรสารีบวิ่งมาเปิดประตูรั้วอย่างรู้หน้าที่ ดิสธรแอบลอบมองหน้าสวยใสไร้เดียงสา ของเด็กสาวอย่างถูกใจ ร่างบอบบางอยู่ในชุดผ้าซิ่นพื้นเมือง เสือแขนกุดสีขาว มีระบายนิดๆ ตรงแขนดูน่าทะนุถนอม แถมมองผาดๆ ตาคมผมยาวยังมีส่วน คล้ายกับกาซะลองอยู่ไม่น้อย ผิดแต่ตรงที่หลานสาวคุณปรียางค์ศรีดูสวยสง่ากว่า มากตามฐานะและความโด่งดัง จักรยาน fat bike
ลูกชายท่านรัฐมนตรียิ้มที่มุมปาก เอี๋องเหนือคนนี้หน้าจิ้มลิ้มเสียจริง!
กาซะลองแทบไม'มีรอยยิ้มในสีหน้า หญิงสาวถอนหายใจอย่างหนักหน่วง สุดจะหงุดหงิดกับภาพที่เห็นตรงหน้า...พยาบาลสาวยืนชิดเกาะแขนผู้กองหนุ่มแจ อย่างกับเด็กกลัวหลงทาง
หลานสาวเจ้าของคุ้มเอ่ยคำลาลันๆ แต่แขกผู้มาเยือนกลับพูดเสียนาน
"เอาไว้เจอกันใหม่นะปีบ รอศกว่างแล้วนัดไปเที่ยวกัน เออ พอดีเราคุย
ปีบดีกว่า...กับคุณดิสธร" หล่อนเว้นวรรคไปนิดหน่อย มองหน้ากาชะลองสลับ กับดิสธรอย่างเย้าแหย่ ก่อนถามต่อว่า "เมื่อไหร่จะมีข่าวดีจ๊ะ อุ๊เคยอ่านข่าว อยู่บ่อยๆ คบกันมานานหลายปีแล้วไม'ใช่หรือจ๊ะ"
ศกรแทบจะสำลักอาหาร ผู้กองหนุ่มมองหน้าเรียวเก่ที่หันไปสบตากับแฟน หนุ่ม กาซะลองทำหน้าพูดไม่ออกบอกไม'ถูก ส่วนดิสธร หนุ่มหน้าตี๋หัวเราะเสียงใส อยากจะสมรับคำถามนั้นแต่ก็เกรงใจคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กาซะลองคงไม่พอใจหรอก หากเขาจะเออออห่อหมก เพราะลิมิตที่หล่อนให้เขาคือคำว่า •เพื่อน'
"เราเป็นเพื่อนกันฮะ ไม่มีอะไรหรอก ข่าวก็ลงไปอย่างนั้นเอง ใช่มั้ยจ๊ะปีบ"
"ไม่ใช่มั้งคะ เพราะคำว่าเพื่อนของดาราแปลว่าเป็นคู่รักกันไม่ใช่เหรอ อุ๊เคย อ่านข่าวบันเทิง เห็นแซวอย่างนี้บ่อยๆ" ทำตาซื่อเสียงใสได้แสนสนิท กาซะลอง ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธนอกจากยิ้มอ่อนๆ ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดแจ้งแถลงความ ในเมื่อคนที่ฟังพร้อมที่จะเชื่ออย่างนั้นอยู่แล้ว หญิงสาวเลื่อนจานอาหารออกเปลี่ยน เป็นถ้วยขนมมาแทน ลิ้นจี่ลอยแก้วหวานชื่นใจจนแทบจะลืมความขุ่นข้องในใจ เสียสนิทถ้าจะไม่เห็นพยาบาลคนสวยใช้ส้อมจิ้มลิ้นจี่คว้านที่จัดในจานเปลอย่าง สวยงามให้ผู้กองหนุ่ม
ตอนเด็กที่ว่าสวยแล้ว โตมาเป็นสาวศรานตายิ่งสวยหวานจับใจ ดวงตา กลมโตดำขลับประดับด้วยแพขนตาดำเข้ม จมูกโด่งได้รูปรับกับริมฝืปากสีชมพู อ่อนบอบบาง ผมยาวสลวยที่เคยเก็บรวบไว้อย่างเรียบร้อยเมื่อวัยเด็กถูกปล่อย ให้ยาวลงมาถึงกลางหลังโดยมีผ้าชีฟองสีชมพูอ่อนหวานผูกคาดไว้ เผยให้เห็น หน้าผากโค้งมนขาวผ่อง ยิ่งเมื่อเจ้าตัวอยู่ในชุดเปิดไหล่แบบลำลองสีขาวที่มี ขลิบระบายสีชมพูกระจายอยู่ทั่วตัว ยิ่งเน้นให้ร่างอวบอิ่มนั้นดูแสนหวาน...ช่าง ศรานตาสมกับชื่อ จักรยาน
ศกรเหลือบเห็นอากัปกิริยาของหลานสาวเจ้าของคุ้มพอดี หญิงสาวหน้า เจื่อนไปนิดนึงก่อนกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มอ่อน หันไปถามศรานตา "แล้ว...อุ๊กับ...ผู้กองล่ะ...เมื่อไหร่จะมีข่าวดี"
ศรานตาหันมาสบตาชายหนุ่ม ทำตาหวานใส่ชนิดที่คนมองแทบต้องเมิน เพราะหวานเกิน
ฮึ! ถึงไม่ตอบก็พอจะรู้คำตอบหรอก หวานเชี้ยบกันขนาดนี้ แต่หนุ่มที่
จักรยานล้อโต

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

"คิดถึงปีบจัง หนีมาเชียงรายก็ไม่บอก"

"คิดถึงปีบจัง หนีมาเชียงรายก็ไม่บอก"
ประโยคแรกส่ออาการตัดพ้อในทันทีที่กาซะลองรับสาย ดิสธรทิ้งกายลง บนพนักโซฟาสีนํ้าตาลอ่อนดูเรียบแต่หรู สมบัติเพียงชิ้นเดียวในบ้านที่น่าจะเป็น ของอิมพอร์ตชุดสุดท้ายที่เหลืออยู่
มือขาวจัดเอือมไปหยิบบุหรี่ที่ประทับตราว่าเป็นของนอกขึ้นมาสูบด้วยท่วง ท่าอันถูกดีไซน์มาแล้วว่าผู้กระทำล้วนแล้วแต่เป็นคนมี 'ระดับ' เขาพ่นลมหายใจ ออกมาอย่างละเมียดละไม ขณะฟังเสียงคู่สนทนา
"พอดีปีบไม่เห็นว่ามีความจำเป็นอะไร เพียงแต่ตั้งใจมาเยี่ยมคุณยาย เท่านั้นเองค่ะ" กาซะลองตอบเสียงราบเรียบ ดวงหน้าเรียวดูราวรูปป้นสลักใน เงาสลัว หญิงสาวหย่อนกายลงที่เก้าอี้รับแขกตัวเล็กดูลำลอง เหยียดแขนขาตาม สบายจนดูราวกับแทบจะไม่ได้ตั้งใจฟังคนทางโน้นเลยด้วยซํ้า จักรยานล้อโต
ดิสธรดึงกายขึ้น นํ้าเสียงของกาซะลองมันทำเอาเขาแทบนั่งไม่ติด ชายหนุ่ม กรอกเสียงแผ่วหวาน
"นั่นแหละฮะจำเป็น อย่างน้อยผมก็น่าจะมีโอกาสได้รู้จักกับญาติผู้ใหญ่ ของปีบบ้าง"
ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ทั้งเสียงทั้งกลิ่นจะหายไป อย่างรวดเร็วอย่างนี้ แต่เมื่อสบสายตาคมเข้มที่บ่งบอกออกมาอย่างไม่ปิดบังว่า หล่อนกำลังเพ้อเจ้องมงาย ร่างระหงก็ยืดตัวตรง แหวเสียงเขียว "คุณยังไม่ตอบ ว่าคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"
"ก็...เดินตามคุณมาไง เห็นทำท่าประหลาดๆ เดินเข้าไปคนเดียวในปาลึก ตอนใกล้คํ่า" ศกรตอบเรียบๆ นาเสียงไม่ยินดียินร้ายตามนิสัย หนำซาดวงตา ยังแฝงไว้ด้วยขบขัน เห็นเพียงเท่านั้นกาซะลองก็สาวเท้าฉับๆ เดินกลับทาง เข้าคุ้มซึ่งเปิดไฟสว่างโร่ จักรยาน fat bike
"อ้าว แล้วจะรีบไปไหนล่ะคุณ ผมอุตส่าห์มีเรื่องจะคุยด้วย"
"แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ" ตอบเสียงห้วน ร่างระหงรีบสาวเท้าอย่าง รวดเร็ว ไม่ได้มีทีท่าที่จะหยุดเดิน พลอยให้คนที่เดินตามหลังต้องสาวเท้าตาม มาขวางหน้าไว้ กาซะลองตาเขียว นับวันอีตานี่ยิ่งถืออภิ3ทธิ
ชิ! คงจะถือว่าเป็นคนโปรดคุณยาย จักรยาน
"ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ" เน้นเสียงเข้ม ดวงหน้าสวย เงยมองผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างโกรธจัด ศกรมองลึกลงไปในดวงตาคู่สวย มัน ทั้งดุทั้งเข้ม แต่กระนั้นชายหนุ่มยังมองเห็นความอ่อนไหวที่ซ่อนอยู่ภายใน กาซะลองรีบเมินหน้าหลบดวงหน้าคมนั้น
คนบ้า มายืนมองหน้ากันอยู่ได้!
"หลีกไป!" หญิงสาวกัดฟันพูด แต่ร่างสูงใหญ่ไม่ได้มีทีท่าว่าจะไหวติง ตรงกันข้ามกลับเคลื่อนกายเข้ามาใกล้ ขณะที่เขาพูดออกมาเบาๆ ราวกระซิบ
"จะไม่คุยกับผมหน่อยหรือ เรื่องอุบัติเหตุจ่าเมฆ"
กาซะลองเงยหน้าขึ้นมองทันที ตาต่อตาสบกัน ศกรเห็นความหวาดหวั่น ปรากฏอย่างชัดเจนในดวงตาคู่สวย มันช่างเด่นชัดราวกับกำลังกระทบจิตใจผู้ เป็นเจ้าของอย่างแรง
"คุณหมายความว่ายังไง มีอะไรเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ" หญิงสาวถามเสียง พร่า ภายในใจนึกตระหนก หรืออุบัติเหตุมันจะโม่โซ่อุบัติเหตุ
หากแต่ผู้กองหนุ่มเพียงจะเริ่มต้นประโยค แพรสาก็รุดเดินเข้ามาหา เด็กสาวค้อมกายลงเล็กน้อยขณะบอกกาซะลองว่า "คุณปีบคะ โทรสัพท์ทางไกล
จักรยาน

กาชะลองอยู่ตรงไหน

■คุณดิสธรคะ ปีบว่าเรื่องทุกอย่างเราคุยกันเคลียร์แล้วนะคะ" กาซะลอง เน้นเสียง แต่ปลายสายชิงบอกก่อน
"แม้แต่เพี่อน...ก็ไม่มีความจำเป็นต้องรู้จักกับญาเ1ของฎบเลยหรือฮะ"
เขายื่นไม้ตายด้วยคำว่าเพื่อน ทำเอาหญิงสาวได้แต่4งเงียบ หากเขาคิดแค่ 'เพื่อน' มันก็ไม่มีป้ญหาอะไร แต่การกระทำหลายอย่างของดิสธร^นส่อไ^|ว•าเขด มากกว่านั้น เหมือนห1|มไฮโซจะเว่า 'จุดอ่อน' ของกาชะลองอยู่ตรงไหน เขา
รีบพูดต่อด้วยนาเสียงที่ฟังสด5นขน "ปีบจะรังเกียจ3?ย หากผมจะแวะไปหาที่ นั่นบ้าง   อย่างน้อยก็ในฐานะเพื่อน"
หญิงสาวอาอึ้ง   ไม่ได้รังเกียจหากเขาจะเป็นเพื่อน แต่หากเขามาทิ่นี่ก็ดู ไม่สมควร
"ถ้าปีบปฏิเสธก็หมายความว่าปีบรังเกียจและ...ไม่คิดเลย^ผมเฎนเพื่อน. "คือ...ปีบ..."
"ให้ผมแวะไปหานะฮะ จะได้ทำความรู้จักกับคุณยายด้วย" เขาชิงตัดบท และวางสาย กาซะลองหน้ายุ่ง นึกไปถึงความยุ่งยากที่จะตามมา รวมทั้งเรื่อง ยุ่งๆ ทั้งหมดที่ยังไม่ได้รับการแก[ข หญิงสาวผุดลุกขึ้นเดินออกไปที่รัมระเปียง ชะโงกหน้ามองลงไปยังลานหญ้าหน้าบ้าน กวาดสายตามองหาคนที่เพื่งจากมา แต่ลานกว้างนั้นปราศจากเงาร่างสูงใหญ่ของ^กองหน้า^มที่ชิอศกร หญิงสาว ทอดถอนหายใจ  รู้สีกในใจห่อเหยวอย่างที่ตัวเองก็หาคํๅตอบไม่ จักรยานล้อโต
นึกไปถึงคำพูดสุดท้ายของเขา
'จะไม่คุยกับผมหน่อยหรีอ   เรื่องอุบัติเหตุจ่าเมฆ'
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันดูยุ่งยากใจ เขาทาเหมือนเป็นเรื่องสสักสำกัญ แต่กล้บผสุนผลันจากไปโดยไมทนได้เอ่ยปาก^ยอะไรกันสักคำ เขาทำอย่างนี้หมาย ความว่าอย่างไร...อีตาผู้กองบ้า!
แต่ในขณะเดียวกันหลังวางสาย หนุ่มไฮโซเจ้าสำอางกลับทำหน้ายุ่งเมื่อ เจอคำถามจากผู้เป็นมารดา ดิสธรไสซองบุหรี่ลงบนโต๊ะอย่างไมอ^งขฏบจน ดูคล้ายเป็นการระบายอารมณ์
"ไม่เห็นมีอะไรเลยฮะแม่ ขนาดผมบอกว่าจะไปหาถึงเขียงราย ปีบเขาปัง จักรยาน fat bike
เฉยๆ"
จากกรุงเทพฯ ค่ะ"
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน Iทรทาง1กลจากกรุงเทพฯ ด้วยเรื่องอะ1ร ในเมื่อ คิวงานทุกอย่างหล่อนก็จัดการแล้วอย่างเรียบร้อย 1ม่น่าจะมีใครมีธุระ โนเมือ ก่อนมาก็ประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าต้องการมาผักผ่อนและ^ม่อยาก'^ครมา รบกวน
"จากใคร"
"คุณดิสธรค่ะ" แพรสารีบตอบเสียงใส สีหน้าสด1ชนขึ้นมาทันทีเมื่อได้สอบ
ถามชื่อเสียงเรียงนามของผู้ที่โทรมาแล้วอย่าง!■รียบร้อย  เพราะยังจำได้ถึงท่าทาง โกรธกริ้วของคุณปีบเมื่อคราวก่อนที่หล่อนตอบอะไรไม่ได้^งไจ
แต่คนที่รอฟังคำตอบอยู่กลับไม่ได้สดชื่นตามไปด้วย กาซะลองนิ่วหน้า เพราะไม่ทราบถึงเจตนาของไฮโซหนุ่มคนด้ง 'ดิสธร อภิฤกษ์ราชตระนันท์' เขาจะโทรมาทำไมในเมื่อเรื่อง 'ทุกอย่าง' ได้ผ่านการพูดคุยกันแล้วอย่างเรียบร้อย
ขยับปากจะบอกแพรสาให้ปฏิเสธ ก็พอดีกับผู้กองหนุ่มพูดขึ้น
"เชิญตามสบายครับ ผมคงไม่รบกวน" ร่างสูงใหญ่ขยับตัวคล้ายจะลํ่าลา ท่าทางของเขาไม่ยี่หระต่อสิงที่กำลังคุยด้างอยู่แม้แต่น้อย วูบหนึ่งที่ความนึกคิด ของกาชะลองประหวัดไปถึงหญิงสาวนามศรานตา เขาอาจจะมีนัดกับหญิงสาร นามนี้อยู่กั๊ได้ ถึงไดรีบร้อนรนนัก
ร่างระหงยึดตัวตรงขณะที่ผินกายเดินขึ้นส่ตัรบ้านโดยไม่มีคำลํ่าลาไดๆ
ปล่อยให้ร่างสูงใหญ่ยืนมองตามอยู่อย่างนั้น จักรยาน
ศกรยักไหล่ พยายาม  'ไม่คิด' ว่าเรื่องที่เกิดเป็นเรื่องสลักสำคัญ  ใคร
คนนั้นอาจจะเป็นคนสำคัญของหล่อนก็ได้ หล่อนถึง1ด้เห็นเรื่องที่จะคุยฟ้น^ง เรื่องเล็กน้อย
ยิ้มให้แพรสาเป็นเชิงทักทายเล็กน้อย แต่เด็กสาวกลับชิงพูดขึ้นเสียงละห้อย "ผู้กองจะกลับแล้วหรือคะ ไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนหรือคะ" "ไม่ล่ะ ฉันมีงานต้องทำต่อ ขอบใจมากนะแพรสา" "แต่ช่วงนี้แพรไม่เห็นผู้กองแวะมาทานข้ารที่คุ้มบ้างเลย" นํ้าเสียงใสกังวานออดอ้อน ดวงตาหวานเชื่อมปกปิดความรู้สืกในไจแทบ ไม่มิดขณะประสานสายตามองผู้กองห'4ม ศกรยิ้มเอ็นดูเด็กสาร เขาเองพอจะ
จักรยานล้อโต

อย่างจงใจในเมื่อสายเบรกถูกตัดขาด

ดึกมากแล้ว...แต่คุณปรียางค์ศรียังนอนไม่หลับ ร่างผอมบางแทบจะเรียก ได้ว่าเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกเดินวนเวียนไปมาอยู1นห้อง จากแสงเงาที่ทอดผ่าน หน้าต่างกระจกทึบเห็นเป็นเงาพะเยิบพะยาบไหวดูน่ากลัว
ขนลุกซู่เมื่อในใจเกิดจินตนาการลาลึก
เมื่อครู่เพื่อนเก่าของกาชะลองมาส่งข่าวเรื่องอุบัติเหตุของจ•ๅเ1มฆ เหตุการณ์ ทั้งหมดมันน่าจะเกิดอย่างจงใจในเมื่อสายเบรกถูกตัดขาด จักรยานล้อโต
เป้าหมายที่วางไว้น่าจะเป็นท่าน  ในเมื่อมันเป็นรถคันที่ใช้อยู่เป็นประจำ แต่ใครล่ะคือ  ■คนคนนั้น' ที่มุ่งหวังทำร้ายกันถึงชีวิ® ครุ่นคิดอยู่ครู่ประมุขของคุ้มภูคากาชะลอง^งเดินไปเฏดลัน^กนขวๅฎฏ ที่ติดอยู่กับตู้เสือผ้า หยิบเอกสารขึ้นมาแฟ้มหนึ่งซึ่งมีรายละเอียดเกิยว^บบัญเ ทรัพย์สินมรดกที่ตกทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ สายตาฝืามัวไล่เรียงทีละตัวลักษร พร้อมทั้งใช้ความคิดตริตรอง
ชองทั้งหมดมีมูลค่าหลายร้อยล้านเลยที{ดียๆ^ หากท่านเป็นอะไรไป...ใคร...สมควรที่จะเป็นผู้ดูแล คิดไปถึงบรรดาเลือดเนื้อเชื้อไขญาติพี่น้องที่ยังคงหลงเหเฎฎ^ มีไ^มาก คนเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับทรัพย์สินมูลค่ามากมายมหาศาล จักรยาน
พันธุรพีไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะสมบัติส่วนตัวที่รุ่นพ่อรุ่นแม่แบ่งให้ก็มาๆ มายนับไม่หวาดไม่ไหว อีกทั้งยังมีลูกชาย...นายแพทย์สฤษด์คุณที่เป็นหสัก รายได้ของฝ่ายนั้นเดือนๆ หนึ่งก็ไม่ใช่น้อย ไหนจะทรัพย์สินของผูเป็นสามีที่ยก ให้ก่อนตาย  ครอบครัวนื้จึงไม่น่าเป็นห่วงอะไร
ส่วนกาชะลอง หลานสาวคนเดียวคนนี้โชคร้ายอยู่หน่อยที่พ่อแม่ตายจาก ตั้งแต่ยังเด็กๆ ไม,มีทรัพย์สินศฤงคารที่ควรจะเก็บไว้ให้แต่อย่างใด แต่เจ้าตัว ก็อาศัยความสามารถส่วนตัว สร้างเนี้อสร้างตัวได้จากการเป็นดารานักแสดง5อ ดังจนมีรายได้เป็นกอบเป็นกำพอได้คลายห่วง แต่หากอนาคตข้างหน้าชื่อเสียง เงินทองร่วงโรย
กาซะลองจะเป็นอย่างไร!
หยัดกายขึ้นเดินตรงไปที่ริมหน้าต่าง ทอดสายตามองผ่านไปที่ลานกว้าง หน้าตัวเรือน เห็นดอกปีบที่ปลูกเรียงรายเป็นพุ่มสีขาวดูกระจ่างเมื่อกระทบ
"ยังไงๆ แกก็ต้องพยายาม ถ้ายังอยากเป็นหนูตกถังข้าวสาร" คุณหญิง ยุพาพักตร์เน้นเสียง แม้ไม่ได้ชอบพอในตัวของกาซะลองมากนัก แต่ความ เป็นผู้ดีเก่ามีเชี้อมีสายของฝายนั้น อีกทั้งความมั่งคั่งของฐานะเงินทองในฐานะ นางเอกชื่อดังและทายาทคนเดียวของคุณปรียางค์ศรี เจ้าของคุ้มภูคากาซะลอง มันเป็นสิ่งหอมหวานสำหรับครอบครัวไฮโซตกยากอย่างอภิฤกษ์ราชตระนันท์
"แล้วตกลงแกจะไปเชียงรายเมี่อไหร่" จักรยาน fat bike
"ก็อีกซักสองสามวันฮะ" ผู้เป็นลูกชายตอบด้วยท่าทางไม่ยินดียินร้าย แม้ใจจะชื่นชอบชื่นชมในตัวของกาซะลองอยู่บ้างแต่ก็ไม่ถึงกับคลั่งไคล้ ด้วยเขา ไม่ชอบอะไรที่มันยุ่งยากเกินไป นี่ถ้าหากแม่ไม่ขอร้องให้ช่วยพยุงฐานะครอบครัว เขาก็คงไม่ทนทำได้นานถึงขนาดนี้
ผู้เป็นแม่ทำท่าเหมือนจะลุกเดินออกจากโซฟาแต่แล้วก็หยุด หันมาพูดกับ เขาด้วยนี้าเสียงเอาจริงเอาจัง "อ้อ ถ้าอยากจะจับเนื้อสมันได้ชิ้นงามๆ ล่ะก็ เพลาๆ เรื่องผู้หญิงของแกลงบ้างนะ เพราะถ้าฉันเป็นแม่ปีบอะไรนั่น ฉันก็คงไม่สนใจ พวกเจ้าชู้ประตูดินอย่างแกหรอก"
ดิสธรมองตามร่างท้วมกลมของแม่ที่ก้าวเดินออกไป แม้แม่จะอยู่ในชุดราตรี ยาวสีขาวดูพราวกระจ่าง แต่เขายังพอมองเห็นความทรุดโทรมจากแววตาที่ ร่วงโรยของแม่ได้อย่างชัดเจน คอสันท้วมห้อยสร้อยเพชรระโยงระย้าแต่ก็ดู เหมือนจะปราศจากสง่าราสีเพราะมันเป็นเพชรปลอม
ชายหนุ่มแอบเบ้ปาก บางทีเขาก็เบื่อชีวิตจอมปลอมแบบนี้เต็มที หรูหรา ฟูฟาทั้งที่ความจริงต้องกระเบียดกระเสียรเต็มกลืน ต้องตากหน้าไปยืมเงินทอง จากญาติพี่น้องเพื่อนฝูง ที่อย่างไรก็ยังเป็น 'คนอื่น' ซึ่งพร้อมจะเหยียบยํ่าให้ จมธรณีอยู่ดี
ด้วยเหตุนี้เขาจึงยังคงชอบพอกาซะลองอยู่บ้าง เพราะถึงแม้หล่อนจะ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พร้อมที่จะมืปฏิสัมพันธ์ในทางชู้สาวใดๆ แต่ก็ไม'เคย เหยียบยํ่า ยังคงเห็นความเป็นมนุษย์ของคนทุกคนเท่าเทียมกัน นี่แหละเขาถึง
กล้าเรียกหล่อนว่าผู้ดี
ผู้ดี...แห่งคุ้มภูคากาซะลอง
จักรยาน fat bike

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ข่าวว่าถนนบางช่วงแย่มาก

คนทีไม่เชื่อมั่นตัวเองนี่ ดู ๆ ก็น่าสงสารแกมเวทนานะครบ
เปียมเดช จะไปติดต่อลูกค้าที่นครศรีธรรมราช ไปถึงบริษัท รถทัวร์ ก็ตั้งคำถามเองว่า
"รถไปนครนี่ สภาพดีไหม" พอเขาตอบว่าดี ก็ถามต่อว่า
"แลวคนขับรถล่ะ ทางบริษัทควบคุมไม่ให้กินเหล้าหรือเปล่า"
บริษัทก็รบรองอีก เปียมเดชซักต่อว่า จักรยานล้อโต
"ถนนล่ะเป็นยังไง ได้ข่าวว่าถนนบางช่วงแย่มาก จะซ่อมเสร็จ
เมื่อไร"
บริษัทยกให้เป็นหน้าที่ของกรมทางหลวง เขาจึงถามต่อว่า "อากาศที่นั่นเป็นยังไง ผมกลัวฝนตกทำให้ถนนลื่น เดินทาง ไม่สะดวก เดี๋ยวเกิดอุบตเหตุขึ้นมาจะยุ่งก็นใหญ่"
เ1เยมเดชยิงคำถามต่อไปว่า "แล้วมีประก้นโจรปล้นไหม" พนักงานบริษัทเหลืออด จึงตอบว่า
"ถ้าเช่นนั้น คุณไว้รอไปตอนชาติหน้าบ่าย  ๆ ก็แล้วก้นจะได้ ปลอดภัย"
คำถามเช่นนี้คือเรื่องของคนไม่เชื่อมั่นด้วเองและหวาดระแวง
มีเห็บสามตัวทะเลาะก้นยกใหญ่ ไม่มีใครยอมแพใคร เห็บชรา ตัวหนึ่งเดินผ่านมาจึงถามว่า
"พวกเจ้าทะเลาะก้นด้วยเรื่องอะไร" จักรยาน
เห็บตัวหนึ่งว่า "พวกเราต่างคิดจะไปยึดเนื้อที่ส่วนที่อ้วนที่สุด บนหมูตัวนี้"
เห็บชราหัวเราะแล้วพูดว่า "พวกเจ้าช่างโง่เหลึอเกิน เจ้า ไม่คิดก้นหรือว่า พอจะขึ้นปีใหม่ คนจะฆ่าแต่หมูที่อ้วนๆ แล้วเอา ไฟจุดหญ้ามาเผาขนหมู"
เห็บสามตัวฟังแล้วก็ได้คิด จึงหยุดโด้เถียงก้น พาก้นคลาน เข้าไปที่ตัวหมูดูดเลือดกินในทันที หมูตัวนั้นจึงผอมลง ๆ และไม่มีใคร คิดจะจับมันไปฆ่า จักรยาน fat bike
นี่คือเรื่องทัศนคดิในการมองปัญหา หมูอ้วนตายเร็ว หมูผอม
ตายช้า
ยงมีคนจำนวนหนึ่งที่คิดถึงแต่ประโยชน์เฉพาะหน้าเท่านั้น สายตาเขาไม่อาจมองประโยชน์ยาวไกลได้ เพราะสติปัญญามีขีดจำกัด ในการมองปัญหา หรือมิฉะนั้น ก็เห็นแก่ตัวมากเกินไป
ใครก็ตามที่ทำงานอะไรจะด้องเรียกร้องผลตอบแทนเป็นเงิน ไปทุกเรื่อง
ใครก็ดามที่อยู่ไหนจะไม่ยอมเสียเปรียบเพื่อน
จักรยาน

สำนักงานบางแห่ง

สำนักงานบางแห่ง สิ่งที่น่าปวดหัวมากที่สุดคือกระดาษ เป็น สำนักงานที่คนพากันเป็นใบกนไปหมด เพราะการสื่อสารทุกอย่าง เป็นเอกสารทั้งสิ้น จักรยานล้อโต
จะสั่งพิมพ์ดีดงานสักชิ้นหนึ่ง ต้องทำบันทึกแนบต้นฉบบ ร่ายยาวถึงความจำเป็นที่ต้องพิมพ์เอกสารชุดนี้
จะขอคำแนะนำจากผู้จัดการ ทั้งที่นั่งอยู่ห้องติดกันแค่คืบ ต้อง ทำบันทึกถึงแทนที่จะพูดกันเสร็จใน ๑๐ นาที ตองนั่งร่างบันทึกแล้วส่ง พิมพ์ดีด แล้วให้คนส่งเอกสารนำไปให้ ผู้จัดการดองเรื่องไว้ ๓ วน แล้วบันทึกตอบกล้บลงมา ตกลงทำงานนั้นไม่ทน
จะจัดงานประจำปีของบริษัท ผู้จัดการพิมพ์[รเนียวถึงพนักงาน ทุกคน ทั้ง ๆ ที่สามารถพูดกันในที่ประชุมประจำสัปดาห้ไต้โดยไม่ล้ฏง เปลืองหมึกเปลืองกระดาษโรเนียว
ลูกน้องจะแสดงความเห็นต่อเจัานาย มีโอกาสพูดด้วยาาจา กล้บไม่ยอมพูดแต่ใชวิธีทำบันทึกถึง เจัานายอ่านบันทึกที่มีข้อความ จำกัดแล้วไม่เข้าใจ กลับมาเล่นงานลูกน้องอีก กลายเป็นความ บาดหมางกันไป
กลายเป็นว่ากิจกรรมทุกอย่างเป็นบันทึกเฎนเอกสารไ1]หมด กระดาษจึงปลิวว่อนทั่วสำนักงาน
ผลของการใช้กระดาษนอกเหนือความจำเป็นคืออะไร จักรยาน fat bike
ในงานมอบรางวัลของบริษัทขายรถยนต์ที่ใรงแ'5มหรูหรา แห่งหนึ่ง คนที่ได้รับรางวัลเป็นผู้จัดการภาค ๒ คนที่ทำสถิติการขายได้ ยอดเยี่ยมมาก มีผูไปร่วมงานราว ๖๐๐ คน
พิธีกรเชิญผู้ได้รับรางวัลทั้ง ๒ คนขึ้นกล่าวถึงประสบการณ์ ของตนเองคนละ ๑๐ นาที
วิเศษ ผู้ได้รับรางวัลขึ้นกล่าวเป็นคนแรกโดยกล่าวว่า "ผมต้อง ทำงานหนักมากมาตลอดทั้งปี ที่ผมทำสถิติได้เช่นนี้เป็นเพราะผม เปลี่ยนแปลงVกวธIข้าพบลูกค้าใทม่...ผมวางแผนด้วยตัวเอง แม้แต่เก็บ เงินลูกค้า ผมก็เก็บเอง ผม...ผม...ผม..." จักรยาน
ปรากฏว่าผู้ฟังเงียบกริบ ส่วนคนที่เป็นลูกน้องของวิเคษ นั่ง กระสับกระส่ายไปมาด้วยความอยากพูดว่า "ผมก็ทำเหมือนกัน"
สิ้นเสียงโฆษกเชิญผู้ได้รับรางวัลคนที่ ๒ ทุกคนปรบมือด้อนรับ
ปิยะก้าวขึ้นสู่เวทีอย่างสง่าผ่าเผยแล้วกล่าวว่า
"ก่อนอื่นผมขอแนะนำให้รู้จักเพื่อนร่วมงานของผม ซึ่งทำให้ ประสบความสำเร็จได้รับรางวัลในค!งนี้"
พูดแล้วก็ผายมือไปยังเพื่อนทีละคน "ขอแนะนำให้รู้จักคุณรังษี ผู้ช่วยผม นี่คุณอมราเป็นเลขานุการของผม คุณวรสิทธึ้ เป็นผู้แทนขาย เขตตัวเมือง คุณประพันธ์ ผู้แทนขายนอกตัวเมือง ที่นั่งอยู่ด้านโน้น กรุณาปรบมือให้กับบุคคลสำคัญทั้ง ๔ คนที่ผมเอ่ยนามมาแล้วด้วย
จักรยานล้อโต

ทันเวลารถเข้าหมู่บ้านเที่ยวสุดท้าย

สม้'ยนี้มีโรคระบาดอย่างหนึ่งครับที่คนเป็นกันมาก ภาษา องกฤษเรียกว่า "เวิร์คคาฮอลิก" แปลเป็นภาษาไทยคือโรคพิษทำงาน เรื้อรัง
ลองมาสำรวจกันหน่อยดีไหมครับ ๑. เราต้องหอบแฟ้มพะรุงพะรังกลับมาทำงานที่บานต่อจนดึก จนดื่นหรือไม่
๒. เราหน้าดำครํ่าเครียดตลอดเวลาในที่ทำงานหรือไม่
๓. เราถูกเร่งด้วยการทำงานจนแทบไม่มีโอกาสผ่อนคลาย
ในระหว่างเวลาทำงานหรือไม่ จักรยานล้อโต
๔. แม่วนเสาร์-อาทิตย์ เราก็ยังต้องทำงานใช่หรือไม่
๕. เราให้เวลาน้อยเกินไปกับครอบครัวที่จะไปพักผ่อน ต่าง
สถานที่ ไปกินข้าวนอกบ้าน ใช่หรือไม่ จักรยาน
๖. เราไม่มีเวลาให้กับงานทางสังคมบ้างเลยใช่หรือไม่
๗. เราไม่ค่อยมีเวลาดูโทรทัศน์ใช่หรือไม่
๘. ห้วข้อสนทนา ไม่ว่ากับภรรยา กับเพื่อน หรือกับใคร ๆ
เรามีแต่เรื่องงานกับงานใช่หรือไม่
๙. คำบ่นของเราในแต่ละวนคือ เหนื่อยกับการงานใช่หรือไม่
๑๐.แม้กระทั่งหลับ ฝันก็ยังฝันถึงงานใช่หรือไม่
คำถาม ๑๐ ข้อนี้ ถ้าตอบว่าใช่เป็นส่วนใหญ่ แสดงว่ามีปัญหา
นพ.กระแส ชนะวงศ์ซึ่งเป็นแพทย์ที่ไต้รับรางวัลแมกไซไชเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ไต้เล่าให้ฟังว่า เมื่อ ๒๐ กว่าปีก่อนตอนเป็นหมออยู่บ้าน นอก ต้องตรวจคนไขให้เสร็จก่อนบ่าย ๒ โมง เพื่อคนไข้จะไต้กลับบ้าน ทันเวลารถเข้าหมู่บ้านเที่ยวสุดท้าย จักรยาน fat bike
วันนั้นหมอตรวจคนไข้เสร็จบ่ายโมงครึ่ง มีผู้แทนขายยา ๒ คน มานั่งคอยอยู่ คนแรกมีท่าทีกระสับกระส่าย เพราะนั่งคอยนาน เมื่อทัก กันแล้ว ผู้แทนขายยาคนแรกก็บ่นว่า "ผมคอยคุณหมอตั้งนาน" หมอ นึกในใจว่า หมอมีธุระเกี่ยวกับความเป็นความตายของคนไข้เขาอยาก ขายยาก็ต้องรอไต้ แล้วก็เชิญเข้ามาในห้องเสนอขายยาให้หมอ พอลง ท้ายก็บอกว่า "ยาตัวนี้ บริษัทกำลังส่งเสริมอย่างแรง คุณหมอช่วย สั่งชี้อยาผมด้วยนะครับ ถ้าผมทำถึงเปิา ผมจะไดไปเที่ยวญี่ปุน"
ปรากฏว่าผู้แทนยาคนนี้ หมอไม่สั่งชื้อยาเลย
กับผู้แทนขายยาคนที่สอง หมอทักว่า "มาคอยนานแล้วหรือครับ ขอโทษด้วย"
ผู้แทนคนหลังว่า "ไม่นานหรอกครับ หมอคงเหนื่อยนะครับ วันนี้คนไข้มาก เลยเวลาอาหารกลางวันมานานแล้ว คุณหมอทานข้าว ก่อนก็ได้ แล้วผมจะมาพบใหม่"
คุณหมอเล่าต่อว่า "ผู้แทนยาคนนี้มองเห็นความสำคัญของผม และงานของผม ถึงจะคอยผมนานหน่อย ก็ไม่ปนและยังจะคอยต่อไป
จักรยาน fat bike

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เรียกว่าทุกย่างก้าว ทุกการกระทำ



ท่านเคยมีลูกน้องประเภทนี้บ้างไหมครับ ทำอะไรด้วยตนเอง ให้สำเร็จได้โดยยาก

จะไปหาลูกค้าสักคนหนึ่ง ก็ต้องมาขอร้องลูกพี่ให้ไปด้วย เพราะ ด้วเองไม่กล้าพอที่จะเจอหน้าลูกค้าคนนั้น จักรยานล้อโต

จะร่างจดหมายสักฉบับหนึ่งก็ร่างเองไม่ได้ด้องมาขอให้ห้วหน้า ร่างให้ ทั้ง ๆ ที่เป็นจดหมายซาแนวเก่านั้นเอง

จะประชุมลูกน้องในแผนก ก็ไม่กล้าประชุมเอง ต้องขอให้ ผู้จัดการช่วยเข้ามาดำเนินการ เป็นพี่เลี้ยงในการประชุมด้วย จักรยาน

แม้แต่จะเข้าหาผู้บังค้บบัญชาระด้บสูง ก็ยงไม่กล้า ต้องพาเพื่อน หรือผู้บังคับบัญชาเหนือชั้นขึ้นไปเข้าหาด้วย

เรียกว่าทุกย่างก้าว ทุกการกระทำ ไม่อาจทำเองโดยลำพังได้

คนแบบนี้เป็นผู้นำยากครับ เพราะเป็นคนที่มีใจโน้มเอียงที่ จะเป็นผู้ตามอยู่ตลอดเวลา ไม่เชื่อมั่นตัวเองเอาเสียเลย

คน{ก่ง คนกล้า คนจริง มักจะมีนิล้ยที่ใช้ความพยายามของตน เองอย่างเต็มที่เสียก่อนเมื่อพบปัญหา ถ้าคิดไม่ตก แก่ไม่ได้แล้วจึงอาศัย ไหว้วานผู้อื่นภายหล้ง จักรยาน fat bike

นิสัยความคิดหวังพึ่งนี้ อาจเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับคนที่เป็น ผู้บังคับบัญชาด้วยนะครับ

หัวหน้าที่ไม่ยอมปล่อยมือเสียบัาง ต้องดามจี้ตามแนะนำลูกน้อง ทุกย่างก้าว ก็เป็นผลให้ลูกน้องพลอยติดนิสัยทำงานโดยลำพังไมไต้

สิ่งสำคัญที่สุด ยังคงอยู่ที่ด้วคนทำงานนั่นเอง ถ้ามุ่งหวังในทาง พึ่งตนเองเป็นหสัก ย่อมพาตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้าไต้

ไม่กี่วันมานี้ ผมไต้คุยก้บน้กธุรกิจหญิงคนหนึ่งซึ่งมีกิจการ จำหน่ายรถยนต้Iนระบบผ่อนส่ง ไต้แง่คิดมาเล่าสู่กันฟัง

ผมถามว่าจะให้เครดิตใครจะดูกันที่ตรงไหน เธอตอบว่าเธอ ไม่สนใจว่าเขาจะมีที่ดิน มีตึกรามสูงใหญ่ขนาดไหน เพราะสิ่งที่เป็น หลักทรัพย์เหล่านั้นสามารถจะกู้เงินธนาคารมาสร้างมาทำไต้ สิ่งที่เธอ สนใจคือโต๊ะทำงาน ห้องทำงานของลูกค้า เธอจะดูว่า โต๊ะรกรุงรัง หรือเปล่า ขี๋บุหรี่เกลื่อนโต๊ะหรือเปล่า คราบบุหรี่จับนิ้วมือเต็มไปหมด หรือเปล่า สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องบอกเหตุว่าคนคนนั้นมีระเบียบชีวิตอย่าง ไร ก้าโต๊ะทำงานจัดเป็นระเบียบไม่ไต้ก็อย่าหมายความว่า จะสามารถ จัดระเบียบการผ่อนส่งเงินตรงกำหนดไต้

ถ้าคราบบุหรี่เกาะเต็มไปหมด ก็คือความสกปรกที่สะท้อนนิสัย มักง่ายของคนคนนั้น

นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการมองคนสิ่งแวดล้อมและวิถีดำเนินชีวิต ของคนคนหนึ่งย่อมเกี่ยวพันถึงความไว้วางใจหรือไม่ไววางใจของคนอื่น ที่มีต่อคนคนนั้นไต้

แน่นอนครับ วิธีเช่นนี้ไม่ใช่คำตอบที่ต้ดสินไต้อย่างเด็ดขาด

ประวิติชีวิดของคนคนนั้น พฤติกรรมที่เขาแสดงออกให้ปรากฏ พ่อแม่ญาติพี่น้องของเขาเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือไต้หรือไม่ รวมถึง บุคลิกภาพหน้าตาของเขาเองก็มีเครื่องหมายส่อแสดงอาการบางอย่างไต้จักรยาน fat bike

จุดยืนอยู่ตรงไหน

เร็ว ๆ นี้ผมมีโอกาสไปบรรยายที่โรงพยาบาลของรัฐบาล แห่งหนึ่งครับ
คุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็ได้คติมาฝากครับ นายแพทย์ ผู้อำนวยการเล่าว่า
วันหนึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยขอน'ดมาหาผู้อำนวยการ เป็น เจ้าหน้าที่หญิง เธอบอกว่ามีเรื่องรบกวนขอคุยด้วย ผู้อำนวยการ ตอบว่า "มีอะไรก็ว่าไปซ"
"หนูอยากจะขอร้องผู้อำนวยการเรื่องหนึ่งค่ะ"
ผู้อำนวยการถาม "มีปัญหาอะไรหรือ เดือดร้อนเรื่องการเงิน หรือเปล่า"
"เปล่าค่ะ" จักรยานล้อโต
"ถ้าอย่างนั้นจะขอร้องอะไร"
"หนูขอร้องอย่างนี้ค่ะ ขอร้องให้ผู้อำนวยการลงไปดูพวกหนู
ทำงานกันบางที่แผนกชัก อบ รีด"
ผู้อำนวยการทำสีหน้างงๆ แล้วตอบว่า
"ขอร้องเท่านั้นหรือ ได้ซิ แล้วจะไป"
หลังจากนั้นผู้อำนวยการก็ได้ปฏิบัติตามที่รับคำไว้
เจ้าหน้าที่ในแผนกนั้นก็มีความสดชื่น  มีชีวิตชีวาตั้งแต่นั้น
เป็นต้นมา เพราะผู้อำนวยการลงไปเยี่ยมเยียนเขาแทบทุกวัน
พ่อค้าที่ผลิตสินค้าขึ้นมาขายแต่ละอย่าง ถ้าไม่เข้าใจเรื่อง การตลาด ก็จะไม่สนใจว่า สินค้าของตัวเองมีจุดยืนอยู่ตรงไหน จักรยาน fat bike
สมมุติว่าทำเครื่องปรับอากาศ เราด้องการคุณสมบตอะไรบาง หนึ่งเย็น สองเครื่องเงียบ สามราคาไม่แพง สี่ประหยัดไฟ ห้าเงินดาวน์ ตํ่า หกบริการดี เวลาโฆษณาออกไปก็บรรยายสรรพคุณถึงสิบอย่าง เท่าที่จะขุดค้นออกมาได้
ปรากฏว่าคนซื้อจำไม่ได้สักอย่าง ดูมันเปรอะไปหมด และ ค่อนข้างจะมหัศจรรย์เกินความจริงไปหน่อย
น้กการตลาดที่เก่ง เขาจะวางจุดปีนของสินค้าที่แน่นอนลงไป ถ้าเชื่อมั่นว่าจุดเด่นคือประหยัดไฟ โฆษณาอะไรก็ตาม ให้มุ่งไปสู่จุดนี้ เป็นสำคัญ ทำให้คนรู้สึกให้ได้ว่า ถ้าเครื่องปรับอากาศที่ประหยัดไฟ ด้องซื้อยี่ห้อนี้เท่านั้น ถ้าอยากได้เครื่องที่เดินเงียบ ก็ด้องไปหายี่ห้ออื่น
สบู่ยี่ห้อหนึ่ง โฆษณามาหลายสิบปีแล้วว่า เป็นสบู่ที่ดาราส่วน มากนิยมใช้ จักรยาน
รถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง จุดขายของเขาคือ ความปลอดภัย ผงชักฟอกยี่ห้อหนึ่งบอกว่า คุณภาพซื่อสัตย์ ราคายุติธรรม นึ่คือจุดยืนของสินค้าที่จะด้องแสดงตัวออกมาให้ปรากฏ นิ'กธุรกิจที่โลภมาก หวงจะครอบครองคุณสมบดที่ดีทั้งหมดไว้ มักจะล้มเหลวในเชิงการตลาดและลืมไปว่าผู้บริโภคหรือผู้ซื้อไม่ต้องการ
จักรยาน

ทุกคนปีจุดอ่อนและจุดแข็งด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น



ทุกคนปีจุดอ่อนและจุดแข็งด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

ผู้จัดการที่มองแต่จุดอ่อนของลูกน้อง ทำใหใม่อาจหยิบเอา

จุดแข็งของลูกน้องมาก่อประโยชน้ให้กับบริษัทได้ จักรยาน

พน้กงานคนหนึ่ง จับให้ทำงานนั่งโต๊ะ แล้วทำงานอะไรไม่ได้

ไม่อาจมีบทบาทอะไรต่อองค์กรนั้น ครั้นเมื่อปล่อยให้เขาออกไปพบปะ

ลูกค้าทำหน้าที่ขายกลับสามารถทำตัวเลขขายได้ทะลุเป้าอย่างน่า

แปลกใจ จักรยานล้อโต

นักบัญชีคนหนึ่ง เป็นคนที่เข้ากับพนักงานคนอื่น ๆ ไม่ได้ เพราะ อารมณ์บูดตลอดเวลา ลองจัดห้องทำงานให้เฉพาะตัวเขาไม่ให้Iคร เข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ก็จะทำให้เขาก่อบทบาทที่เป็นคุณต่อบริษัทได้ปัญหา การเข้ากับคนอื่น กลายเป็นเรื่องเล็กนัอยลงไป

นักออกแบบและคิดถ้อยคำโฆษณา หรือที่เรียกภาษาอังกฤษ ว่าครีเอทีฟ ถ้าเขามีผลงานดีมาก แต่เป็นคนขาดระเบียบในเรื่องข้าวของ เครื่องใช้และมาสายเป็นประจำ ก็ลองเสนอเงื่อนไขใหม่แทนที่จะเป็น พนักงานประจำ ก็ให้เป็นพนักงานที่รับงานเหมาเป็นรายชิ้น ให้ทำงาน อยู่กับบัานก็ได้

นักบริหารที่เก่ง จะไม่ตั้งคำถามว่า "เขาจะเข้ากับผมได้ไหม,' แต่จะพูดว่า "เขาจะทำประโยชน์อะไรให้แก่เราได้บ้าง" เขาจะไม่ถาม ว่า "เขาทำอะไรไม่ได้บ้าง" แต่เขาจะถามว่า "เขาจะทำอะไรที่เป็น เยี่ยมได้บ้าง"

ผู้จัดการบางคนนั่งทำงานอยู่แต่ในห้อง ไม่รู้เหนือรูใด้ว่าอะไร เกิดขึ้นกับลูกน้องของตนเองบ้าง ยิ่งถ้าเป็นคนเก็บเนึ้อเก็บด้วหรือไม่มี นิสัยโอภาปราศรัยด้วยแล้ว ยิ่งกลายเป็นคนโง่ไปเลย

เมียของลูกน้องเจ็บหนัก เข้าโรงพยาบาลมา ๓ รันแล้วยงไม่รู้

ลูกน้องบวชเป็นพระไปแล้ว ก็ยังไม่รู้ จักรยาน fat bike

ญาติผูใหญ่ของลูกน้องตาย กำลงสวดศพอยู่ ผู้จัดการก็ยังไม่รู้

บรรยากาศในการทำงานไม่ดี ลูกน้องขรัญเสีย เนื่องมาจาก ผู้มีอำนาจบางคนในบริษัท ผู้จัดการก็ยังไม่รู้

ผู้จัดการคนไหนทำงานโดยไม่รู้สภาพความเป็นไปของลูกน้อง ของคนในบ้งคบบัญชา ผู้จัดการคนนั้นไม่ควรเป็นผู้จัดการด้วยครับ

วิธีที่จะกมสภาพของบริษัทไหได้ก็คือ

๑. หาโอกาสเข้าประชุมม่อย ๆ มีการประชุมอะไรก็ตามของ บริษัท ถ้ามีเวลาก็เข้าประชุมเถิด จะได้รู้อะไรดี ๆ

๒. หาโอกาสคุยกับพน้กงานแบบเป็นกันเองบ้าง กินข้าวกับ ลูก น้องบ้าง คุยไปด้วย แลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกัน อย่าเลือกคุย เฉพาะคนที่มีตำแหน่งสูง ๆ เท่านั้น คน่ระด้บล่างนั่นแหละที่มักจะรู้อะไร ดี ๆ เสมอ

๓. คุยกับหลาย ๆ คน อย่าฟังรายงานจากผู้จัดการบุคคล เพียงคนเดียว ข่าวสารจากหลายคนทำใหใด้ข้อมูลที่ถูกต้องจักรยานล้อโต

ถ้ามีเหตุการณ์ที่จะต้องโต้แย้งถกเถียงกันคนที่ควบคุมอารมณ์ ไม่ไต้หรือใช้คำพูดไม่เป็น



ถ้ามีเหตุการณ์ที่จะต้องโต้แย้งถกเถียงกันคนที่ควบคุมอารมณ์ ไม่ไต้หรือใช้คำพูดไม่เป็น จะนำไปสู่ความบาดหมางที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น นะครับ จักรยานล้อโต

ความจริง ในการโต้แย้งกันทุกครั้ง จะต้องมีอย่างน้อยก็จุดใด จุดหนึ่งที่คู่โต้แย้งสามารถตกลงกันไต้

วิธีการที่ดีคือ อย่าเพิ่งเข้าสู่จุดนั้นในทันทีทันใด ควรหาทาง ให้ คู่กรณีเข้าสู่อารมณ์ที่ยอมรับมากขึ้นเสียก่อน เปิดใจกว้างขึ้นสั'กหน่อย เสียก่อน แล้วความขัดแย้งจะลดความรุนแรงลงไป

แทนที่จะพูดว่า "คุณมัวมั่วแต่งานนอกหน้าที่มากเกินไป" ก็น่าจะพูดใหม่ว่า "งานที่คุณไปช่วยฝ่ายส่งเสริมการขายก็เป็น ประโยชน์ต่อบริษัท แต่ผมอยากให้เรามารวมศูนย์ความสนใจที่ ฝ่ายขายในประเทศมากกว่า เพราะเราต้องการจะเพิ่มยอดขายให้มาก กว่านี้" จักรยาน

แทนที่จะพูดว่า "คุณไม่เคยสนใจลูกน้องของคุณเลย"

ก็ควรพูดว่า "ผลงานเฉพาะตัวของคุณยอดเยี่ยมมาก ผม

อยากให้ประสบการณ์ของคุณเผื่อแผ่ไปถึงลูกน้องของคุณด้วย จะ

ทำให้ทีมงานของคุณแข็งแกร่งมากกว่านี้"

หากคู่โต้แย้งหยิบเอาบางจุดขึ้นมาโต้เถียง ก็ขอให้พูด

นักทำงานจริง จะมีความสามารถอย่างหนึ่งครับ คือความ สามารถในการทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง

ผมได้พบได้เห็นคนเก่งหลาย ๆ คน เมื่อได้ศึกษาแล้วก็พบ คุณสมบต๊นี้อยู่ในตัวบุคคลเหล่านั้น

ปกติคนเหล่านั้นจะรู้จักแบ่งเวลาในการทำงานเป็นรู้ว่าเมื่อไร ควรพัก เมื่อไรควรลงมือทำ จักรยาน fat bike
แต่เมื่อถึงคราวที่มีงานต้องทำให้เสร็จในเวลาจำกัดที่แน่นอน เขาก็สามารถอดตาหลับขับดานอน ทำงานอย่างเต็มที่ได้

น่าประหลาดที่ว่า คนทำงานหนักต่อเนื่องควรเหนื่อยควรเพลีย แต่กลับปรากฏว่า ยิ่งทำงานต่อเนื่อง ยิ่งมีพลังเพิ่มมากขึ้น

จิตวิทยาง่าย ๆ อยู่ตรงที่ว่า งานหนักที่ต่อเนื่องย่อมส่งผลให้เห็น ปรากฏในกระบวนการของงานนั้น เมื่อเห็นผลก็ยิ่งมีกำลังใจ มมานะทำ งานให้หนักยิ่งขึ้น ยิ่งทำไปก็ยิ่งเกิดผลมากขึ้น พอผลสำเร็จเกิดขึ้นตาม ที่ตั้งเปิาหมาย ความกระปรี้กระเปร่าสดชื่น ก็จะเข้ามาในจิตใจของ คนคนนั้น

งานหนักในที่นี้ไม่ได้หมายความแต่เพียงงานใช้แรงงานนะครับ งานใช้สมองก็ถือเป็นงานหนักได้

ใครที่เลือกแต่งานเบา ๆ ใครที่ท้อถอยเมื่อด้องเผชิญงานหนัก เป็นเครื่องหมายวัดคุณค่าของคนอย่างหนึ่งว่า มีคุณภาพชีวิตหรือไม่จักรยาน fat bike

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

วิธีบังคับตนเอง



สิ่งที่น่าเศร้าในการทำงานก็คือ นิสัยผัดวันประกันพรุ่ง ซึ่ง แต่ละคนก็เป็นมากบ้างน้อยบ้างตามดีกรีต่างกันไป

ผมเองก็ติดนิสัยนี้เอามากๆ ทีเดียวครับ คิดว่าพรุ่งนี้ค่อยทำ ก็ได้วันรุ่งขึ้นมาถึงก็ผัดไปอีก ทั้งๆ ที่สามารถทำในวันนี้ได้ จักรยาน

เมื่อได้อ่าน ได้คุยกับคนอื่นแล้วจึงรู้ว่า เราแกํไขนิสัยผัดวัน ประกันพรุ่งได้หลายๆ วิธี

แบบหนึ่ง คือการบังคับตัวเอง อีกแบบคืออาศัยสิงภายนอก

บังคับ

วิธีบังคับตนเอง ก็ด้วยการสร้างแรงดลใจขึ้นมาว่า ผัดวันประกัน พรุ่งทำให้เป็นเหตุของความวิตกกังวล หงุดหงิด น่าเบื่อหน่าย และ ไม่เป็นผลดีอะไรเลยต่อชีวิตจักรยานล้อโต

หรือถ้าเป็นงานใหญ่ๆ ที่รู้สึกว่าหนัก ก็หาทางแบ่งซอยย่อย ให้เป็นงานเล็ก ๆ เสีย แล้วจะรู้จักอยากทำงานมากขึ้น หรือมิฉะนั้นก็ หาทางทำทันที แม้ว่าจะทำไปเพียงส่วนเดียว เช่นรายงานที่ด้องเขียน ยาวสิบหน้า ก็ลงมือเขียนวันนี้สกหนึ่งหน้าไปก่อน

หรืออาจจะมาคิดเปรียบเทียบดูว่า ถ้าเราทำเสร็จวันนี้ จะเกิด ผลดีอะไร เกิดผลเสียอะไร เทียบกับการผัดวันไปวันอื่น ผลดีผลเสีย ต่างกันอย่างไร

นี่คือวิธีบังคับตนเอง

เกิดปัญหาขึ้นในการทำงาน ในชีวิตครอบครัว หรือในชีวิต ทางสังคม ทางออกจะมีอะไร ผมได้ฟังคุณไพบูลย์วัฒนคิริธรรม ผู้ช่วย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารไทยทนุจำกัด พูดไวัอย่างนี้ครับ คุณไพบูลย์ พูดว่า คนเราจะใช้ ห้า ก.เข้าเผชิญปัญหา

ก.แรก คือ ก.ก่น ปัญหาคือความไม่พอใจ ไม่พอใจก็ต้องขุด เอาเรื่องนั้นๆ ขึ้นมาก่นด่ากล่าว สุดแต่จะสรรหาเหตุผลมา จักรยาน fat bike

ก.ที่สอง คือ ก.กด คนประเภทนี้ไม่ยอมรับปัญหา เพราะถ้า ยอมรับเมื่อไรแสดงว่าตนเองเป็นคนบกพร่อง ไม่มีแมือ ที่ทำให้ปัญหา เกิดขึ้นวิธีที่เขาเห็นว่าดีก็คือกดปัญหาไว้ไม่ให้มันแสดงตัวออกมา

ก.ที่สาม คือ ก.แกัคนแก้ปัญหา ต้องให้คะแนนบวกเขา เพราะ ทำให้ปัญหาคลี่คลายลงได้ แต่ก็ยังเป็นการกระทำที่ปลายเหตุ คือรอ ให้เกิดปัญหาเสียก่อนค่อยแก้

ก.ที่สี่ คือ ก.ก้น วิธีนี้ดีกว่าแก้ครับ หาทางซองก้นไว้ก่อน แทนที่จะปล่อยให้มันเกิด วิธีนี้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า และทำให้เกิด ความราบรื่นในการทำงานมากกว่า

ก.ที่ห้า คือ ก.ก่อ ก่อ คือการพัฒนาสร้างสรรค์ เป็นวิธีที่ยัง ไม่ค่อยมีใครทำก้นมากนัก นั่นคือการมุ่งความสนใจไปที่การพัฒนา คนและการพัฒนาองค์การให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการไม่ต้องเผชิญก้บปัญหาจักรยานล้อโต

ผู้จัดการจะตัดบท

ไม่มีประสบการณเดเลยที่มีความสูญเปล่าอย่างสิ้นเชิง นายปีเตอร์เอฟดรักเกอร์เป็นปรมาจารย์ทางด้านบริหารและ

คนที่เล็งแลไปข้างหน้าตลอดเวลาโดยไม่ได้เหลียวหลังมาดูอดีต การจัดการของสหรัฐอเมริกาที่มีคนรู้จักกันทั่วโลก เป็นผู้มีอิทธิพล

อาจเป็นคนที่ละเลยประสบการณ์เก่า หรือมิฉะนั้นก็ยังไม่รู้จักเก็บรับ ทางความคิดที่มีคนยอมรับอย่างกว้างขวางมาก เอาประสบการณ์เก่ามาใช้ประโยชนเด้เพียงพอ นายดรักเกอรใด้เล่าให้ฟังว่าเขาได้ทำ^นเป็นที่ปรึกษาให้กับ จักรยานล้อโต

บริษทแห่งหนึ่ง สั่งของจากต่างประเทศเข้ามาขายหลายอย่าง ผู้จัดการธนาคารใหญ่แห่งหนึ่ง ในช่วงเวลา ๒ ปีที่ทำงานนี้ เขาจะด้อง

ของบางอย่างเมื่อนำออกสู่ตลาดแล้วขายไม่ดีเท่าที่ควร ถ้าชั่งนํ้าหนักดู ประชุมกับผู้จัดการดือนละครั้งอย่างสมํ่าเสมอ และทุกครั้งจะใข้ จักรยาน

ระหว่างการเลิกสั่งของกับการสั่งของชนิดนั้นมาขายต่อไป น่าจะเลิกสั่ง เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งพอดี ผู้จัดการมักเตรียมพร้อมสำหรับการประชุม

มากกว่า แต่บริษัทนันก็ยังสังของมาขายอยู่ ซึ่งมีผลให้ดรักเกอร์ด้องเตรียมพร้อมด้วยเช่นเดียวกัน และการประชุม จักรยาน fat bike

สำนักงานบ'ญชีแห่งหนึ่ง ได้พบว่ามีเพื่อนๆ มามั่วสุมที่สำนักงาน จะต้องมีวาระไม่เกินหนึ่งเรื่อง

ในกิจการที่มิใช่ธุรกิจ ได้ย้ายสำนักงานไปสถานที่ใหม่แล้ว แต่กยัง เมื่อการประชุมดำเนินไปหนึ่งชั่วโมงยี่สิบนาที ผู้จัดการจะตัดบท

ปล่อยปละให้มีการมัวสุมแบบเดิมอยู่ และพูดว่า "คุณดรักเกอร์ผมคิดว่าคุณควรสรุปเนี้อหาการประชุมทั้งหมด

กรรมการผู้จัดการบริษัทหนึ่ง พบว่าระบบการเบิกจ่ายเงิน และแนะนำวา เราควรจะทำอะไรต่อไป",ด้วยคำพูดเช่นนี้ทาให้การ

แบบเก่ามีหนทางรั่วไหลได้มาก แต่แล้วก็ไม่ได้ลงมือปฏิบัติเพึ่อ ประชุมเสร็จสิ้นลงในสิบนาทีหลังได้เสมอ

เปลียนแปลงแกไขอะไร วนหนึ่งดรักเกอร์ถามผู้จัดการว่า "ทำไมจึงชอบประชุมเป็นเวลา

นี่คือปัญหาการนำสิ่งเก่ามารับใช้สิ่งใหม่ สิ่งเก่าจะเป็นด้านดี หนึ่งชั่วโมงครึ่ง" ผู้จัดการตอบว่า "ง่ายนิดเดียว ผมคิดว่า ผมสามารถ

ก็ตาม ด้านไม่ดีก็ตาม ล้วนเป็นบทเรียนที่มีคุณค่า ให้ความสนใจกบงานใดงานหนึ่งสูงสุดครั้งละหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น

ประสบการณ์ด้านดี ก็คือการเสริมด้านดีให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เมื่อใดก็ตามที่การประชุมยืดเยื้อไปกว่านผมจะเริ่มเหนื่อยหน่ายและ

ประสบการณ์ด้านไม่ดี คือสิ่งที่ต้องแกไขให้กลายเป็นดีในการทำงาน พูดจาวกวน นอกจากนผมยังพบว่า งานสำคัญทุกอย่างสามารถทำ

ชิ้นนั้นใหม่ในวันข้างหน้า ให้เสร็จในระยะเวลาสั้น ๆ ได้"

จักรยานล้อโต

ลูกน้องยังพูดไม่ทันจบเรื่อง

ผู้จัดการคนหนึ่งได้บอกกล่าวก้บลูกน้องให้รับรู้กันโดยทั่วไปว่า "ผมยินดีรับฟืงความคิดเห็นพวกคุณเสมอ มีอะไรก็พูด
กันได้ ผมอยากได้ความคิดใหม่ๆ ความคิดดีๆ มาช่วยปรับปรุง
การทำงานของพวกเรา"
นี่คือคำพูดที่แสดงออกของผู้จัดการ แต่ในทางปฏิบตกคือ พอลูกน้องเสนอความคิดอะไรขึ้นมา ก็ตอบกลับทันทีว่า "ความคิดแบบนี้ผมเคยคิดมาแล้ว ไม่ใช่ความคิดใหม่อะไร" เรียกว่าปิดประตูตนเอง โดยที่ลูกน้องยังพูดไม่ทันจบเรื่อง จักรยานล้อโต
ด้วยซํ๋าไป
ผู้จัดการคนเดียวกัน กลายเป็นคนมีทัศนคติในทางร้ายต่อ ลูกน้อง ทำไมลูกน้องถึงซุบซิบนินทา ทำไมลูกน้องไม่ยอมพูดกับ ตนเอง ทำไมลูกน้องไม่ยอมคิดริเริ่มอะไร
สาเหตุก็อยู่ตรงที่ ผู้จัดการไม่ยอมเปิดใจตัวเองให้กว้าง ไม่เพ่ง ความบกพร่องของตนเอง หากแต่เล็งไปที่ความผิดของลูกน้องเป็น สำคัญ
สำน้กงานดังกล่าว กลายเป็นสำนักงานที่ขจัญและกำลังใจ ของพนักงานตกตํ่ามาก แม้ว่าอัตราเงินเดือนของพนักงานจะสูงก็ตาม จักรยาน fat bike
การปฏิบติสำคัญกว่าคำพูดและท่าทีครับ พูดว่า เปิดใจ แต่ทำ กลับปิดใจเช่นนี้ ก็หวังไม่ได้ว่าลูกน้องจะร่วมมือด้วย
คนทำงาน ไม่ว่าใคร โดยทั่วไปก็อยากใหญ่ด้วยกันทั้งนั้น ใหญ่ในที่นี้คือการได้เลื่อนตำแหน่ง ได้ก้าวไปข้างหน้า ทั้งด้วย ความสามารถและด้วยอายุการทำงาน
ปัญหาก็คือจะใหญ่ได้อย่างไรใครที่คิดว่าเข้าเจ้านายแล้ว จะทำ ให้ตนเองใหญ่ได้ก็ต้องใช้วิธีประจบสอพลอเป็นด้านหลัก จักรยาน
บางคนอาจจะเป็นเรื่องของความอาวุโส คือแก่กว่าคนอื่นเขา เขาก็ยกให้เป็นหัวหน้า
บ้างก็อาจจะบุญหล่นทับ คือหัวหน้าเดิมมีอนเป็นไป ทำให้ ตำแหน่งว่างลง ตนเองก็เลยได้ครอบครองตำแหน่งนั้น
คนที่ใหญ่ขึ้นมาด้วยเหตุ ๓ ประการดังกล่าว ถ้าเป็นคนที่ใหญ่ โดยขาดความสามารถ จะมีปัญหาขัดแย้งในการทำงานในระยะยาวครับ เพราะการยอมรับหรือไม่ยอมรับต่อผู้นำนั้น ย่อมส่งผลถึงการทำงาน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ลูกน้องไม่เชื่อฟังเสียอย่าง ผู้นำก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว
จึงมีคำพูดคำหนึ่งครับ เขากล่าวว่า "เล็กไม่เป็นใหญ่ไฝได้"
ความหมายของคำคำนี้ก็อยู่ที่การเป็นผู้นำจะต้องมีพึ้นฐานรอง รับจากคนระดับล่างลงไป
คนระดับล่างจะเป็นฐานรองรับได้ ก็ต่อเมื่อคนคนนั้นมีความ
จักรยาน fat bike

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

กรรมสยอง สนอ0กันถา!



กรรมสยอว สนอ0กัIเถา!

๒๔

มีไม่มากคนหรอกที่จำเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา และคอยสำนึก ว่าอย่างนั้นอย่างนี้ทิ่ตนได้กระทำไปเป็นบาปเป็นกรรม นอกจากคนที่ มีธรรมประจำใจเท่านั้น ที่คอยนึกถึงบาปบุญคุณโทษดังเรื่องที่จะเล่า ให้ฟังต่อไปนี้

ภาคใต้เป็นภาคที่อุดมสมบูรณIปด้วยทรพยากรจำนวนมากมาย ก็จริงอยู่ แต่การทำมาหาเลี้ยงชีพของคนแต่ละจังหวัดแต่ละท้องที่ ย่อมแตกต่างกัแไปตามธรรมชาติและสภาพแวดล้อมจักรยาน

เพราะบางถิ่นการกินอยู่มิได้สดเคืองแต่ประการใดเลยแต่กลับ มีคนว่างงานมากมาย โจรผู้ร้ายชุกชุม แต่บางท้องถิ่นบางจังหวัด การ ครองชีพฝืดเคือง คนยากจนและคนที่มีฐานะพออยู่กินไปวัแๆ แต่ชุมชน กลับอยู่กันอย่างพี่น้องมีความผาสุก

ระนอง เป็นจังหวัดหนึ่งของภาคใต้ที่มีทรัพยากรธรรมชาติ มากมาย เช่น แม่นา ภูเขา และอุดมไปด้วยปาไม้ แร่ ลัตว์นํ้า แต่ ในความอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดนี้ ก็หนีไม่พ้นชาวชนบทยากจนมี อาชีพรับจ้างและเก็บหาของปา ต้องดิ้นรนประกอบการงานเพื่อเลี้ยงปาก เลี้ยงท้องจักรยานล้อโต

สาโรจน์ เด็กชนบท ก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกันนี้ นอกจากจะ ตกอยู่ในสภาวะกำพร้าแม่ตั้งแต่ตนเองยังเป็นเด็กเล็กแล้ว ยังต้องดิ้นรน ทำงานเกึอบทุกชนิด ก็เพื่อจะได้เลี้ยงตัวและพ่อที่ทำงานไม่ไหวแล้ว อีกคน

ขณะที่ฝนตกหนักอยู่นั้นบุคคลส่วนหนึ่งที่ประกอบอาชีพทำแร่ ก็ต้องตากฝนกันทั้งวัน สาโรจน์ก็ทำได้เหมือนกันไม่เคยปนและย่อท้อจักรยาน fat bike

กรรมสยอง สนอ0กันถา!

๒๕

คนที่พบกับสองพ่อลูกนี้ต่างก็มีความสงสารไปตามๆกัน

ผู้ทิ่มีความเมตตาอยู่มากก็ได้นาไปทำงานที่มีเงินเดือนเพื่อจะได้ มีรายได้ที่แน่นอน สาโรจน์ทำไดไม่นานเท่าไรก็พบกับความเจ็บปวย เพราะสุขภาพไม่ค่อยดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วประกอบกับเวลาพักผ่อนน้อย ในที่สุดก็ออกจากงาน

ปี พ.ศ.๒๕๒๗ เป็นต้นมา มีบุคคลต่างถิ่นเข้ามาอาศัยทำกินใน จังหวัดระนองกันมาก ตามเกาะ ตามปาที่ว่างเปล่าอยู่เดิม เริ่มเปลี่ยน แปลงเป็นบ้าน เป็นสวน ในขณะเดียวกันค่าครองชีพก็ขึ้นสูงตามมา ทํนทีงานการก็หายากเพราะคนมากต้องแย่งหางานกันทำ

อีกอย่างการจ้างงาน ไม่ว่างานสวน งานเหมืองแร่ งานประมง งานโรงเลื่อย งานกรรมกรต่างๆ นายจ้างชอบจ้างแรงงานพม่าเพราะค่า แรงถูกกว่าและป้ญหาไม่มี เรียกได้ว่าเป็นพม่าเกินกว่าครึ่งของงาน กรรมกรทั้งจังหวัดก็ได้

เมื่อไม่มีงานทำ สาโรจน์ก็ปรึกษาพ่อว่าจะชื้อรถมอเตอร์ไซค์วิ่ง รับจ้าง พ่อก็ไม่ขัดข้องเพราะเห็นว่าเป็นงานเบาและมีรายได้ดีพอสมควร เหมาะสมแล้วกับคนทิ่มีร่างกายไม่สู้จะดี

ในช่วงนี้เองที่ทำให้สาโรจนIดไปรู้จักกับอรรณพในปอนชนไก่ แห่งหนึ่ง เป็นการรู้จักแค่เห็นหน้าจำได้และพอเรียกชี่อกันถูกแค่นั้นเอง มิได้สนิทสนมกันเท่าไรนัก หาได้รู้ถึงความตี้นลึกหนาบางหรีอหัวนอน ปลายเท้าอย่างคนโบราณว่า "รู้หน้าไม่รู้ใจ" เป็นการรู้จักกันเพยงว่า อยู่แถวๆ ปอนไก่แห่งนเอง

อรรณพ แท้ที่จริงประกอบอาชีพอะไรเป็นหลักไม่มีใครทราบจักรยานล้อโต

กรรมที่ผมก่อขึ้แก็ตามสนอง

กรรมสยอว  สชอ3กันถา!
๖๘
พอขึ้นปีที่ ๓ กรรมที่ผมก่อขึ้แก็ตามสนอง 7แนั้นขับรถไปส่งของ เป็นระยะทางหลาบร้อย?1โคเมตร ขณะที่รถวิ่งกลางทะเลทรายอยู่นั้น เกิดพายุพัด:II เแผ่ I 1ใหญ่๒ พํ่ 11.1.ฑ่เ.แ*1.ท II1ไ;เเเคยพบเคยเห็นลมหอบ เอาทรายและ*เนตคบอบอวค ผมไม่ก#ามอง ได้แต่ก้มหน้ากอดพวง มาสัยรถ ภาวนาระ^ก^งๆณพระ'^ทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อ แม่
1.ไI,ขณะนั้นผมรู้สีกว่ารถโ)กยกขึ้นสูงแลว|,หป้คน^กปล่อยให้ หัวที่มลงมาอย่างแรง ผมหมดความรู้สืกไปไม่ทราบว่านานเท่าไร มารู้สีก ตัวอีกครั้งก็มีรถของบริบทนำเครื่องมาเจาะประตูเหล็กออกจากรถ เพราะ มันอัดโ?อบปีผมไว้แน่นออกไม่ได้ จากนั้นผมก็ได้รักษาตัวอยู่นานโดย ไม่ยอมบอกเรื่องราวให้ทางบ้านทราบเลย ชวิตช่วงนี้ลำบากสุดไม่มีใคร ดูแลเลย
เมื่ออาการดีขึ้นบ้างถึงแม้จะยังไม่ปกตั ทางบริษัทก็ได้เปลี่ยน งานให้ไปทำงานเบาๆ อยู่กับที่ แต่ถึงกระนั้นกรรมก็ยังตามทันผมอีก เมื่อวัสดุใช้ก่อสร้างได้ตกลงมาถูกสีรษะเป็นแผลเหวอะหวะถึงกับเย็บสิบ กว่าเข็ม ผมสลบไม่ได้สติอยู่หลายชั่วโมงจักรยาน
เพื่อนๆ ที่อยู่เมืองไทย ทั้งแม่และเมียที่ได้ทราบข่าวซึ่งทาง บริษัทที่ผมท่าอยู่แจ้งไป ต่างก็ทำบุญทำทานกันยกใหญ่เพื่อให้ผมอยู่รอด ปลอดภัย และได้อ้อนวอนให้ผมเดินทางกลับประเทศไทยจะเป็นตาย รายดีอย่างไรก็ขอให้กลับให้ได้
ผมรักษาตัวอยู่เดึอนกว่าๆ อาการดีขึ้แจึงขอเลิกสัญญากับบรบท แลัวเดินทางกลับประเทศไทย
เมื่อถึงบ้านผมนอนพักอยู่แต่ในบ้านไม่ค่อยออกไปไหนเพราะ
กร3ม0110ง สIIอวกัชถา!จักรยานล้อโต
๒!,)
แต่ที่ทราบกันในหมู่ที่เรียกว่าสนิทสนมกับเขามากแล้วก็เพียงว่าเขามี ชื่อเล่นว่า "ไข่" เดิมทีเป็นคนไทยที่อยู่ในเขตพม่า แต่มีพี่สาวมาอยู่ใน เมึองไทย เขาจึงไปมาระหว่างไทยกับพม่าปอยๆ ชึ่งก็ไม่น่าที่จะเป็น ที่แปลกอะไรสำหรับคนในท้องถิ่น เพราะจังหวัดระนองอยู่ใกล้พม่า ทั้งชาวไทยและชาวพม่าไปมาค้าขาย ทำไร่ ทำนา ไปเช้าเย็นกลับก็ยัง ได้เลย คนที่เคยขึ้นบนเขาสูงแถวอำ๓อละอุ่น จังหวัดระนอง ยังสามารถ มองเห็นเรือทหารพม่าซึ่งวิ่งระหว่างเขตไทยและพม่ากลางลำนํ้าชัดเจน
อรรณพหรือไข่ ที่ชาวบานเรียกกัน หน้าตาผิวพรรณจัดว่าเป็น คนดูดิ การพูดจากิริยาต่างๆ ออกสุภาพเรียบร้อย อายุก็ประมาณ ๒๕ ปี เท่านั้นเองใครเห็นก็ว่าเป็นคนที่น่าคบหาสมาคมที่มีแปลกๆ เล็กน้อย ตรงที่ว่า เวลาไปไหนมาไหนเขามักจะสวมแว่นสีดำเท่านั้นจักรยาน fat bike
ในเดีอนมีนาคมของทกๆ ปี ทางจั3หวัดระนองจะจัดงานประจำปี ขึ้นเรียกว่า งานมีนาหรรษา จัดถึง ๙ วัน ๙ คีน พวกที่วิ่งรถรับจ้างไม่ว่า รถยนต์หรือรถมอเตอร์ใซค์ต่างก็มีรายได้เพิ่มขึ้นวันละหลายๆ บาท
ตอนเช้าของวันนั้นสาโรจน์ออกจากบ้านนำรถจอดหน้าตลาดสด เช้านี้ยังไม่มีผู้ว่าจ้าง พอดีมีคนเช้าไปว่าจ้างโดยไม่จำกัดว่าจะเป็นรถใคร เพราะขณะนั้นมีรถอยู่ ๒ คัน อีกคนก็เป็นเพื่อนของสาโรจน์
สาโรจน์มองปราดเดียวก็รับอาสาทันที เพราะเห็นว่าเป็นคนรู้จัก กันจึงขอร้องเพื่อนขับรถรับจ้างด้วยกันว่าวันนี้เขายังไม่ได้ค่าช้าวและ ค่านี้ามันเลย เพราะผู้ที่มาว่าจ้างในขณะนั้นคืออรรณพ
อรรณพให้ราคาพอสมควร ระยะทางไปกลับประมาณ ๔๕ กิโล
ฌตร ในราคา ๒๐0 บาท ถึงแม้ว่าทางจะกันดารและเปลี่ยวเป็นระยะ ๖
จักรยาน fat bike

กรรมสยอง สนองกันถา



กรรมสยอง สนองกันถา

กลัวฝายผู้เสียหายจะตามแก'แคน

ในคืนหนึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาค้นบ้ๅนผมแต่ด้วยความ ระวังตัวอยู่แล้ว ก่อนที่เมียของผมจะเปิดประตูผมก็ๆระ'[ดดออก ประตูหลังบ้านอย่างรีบร้อน ผมชนลวดหนามถึงกับขาดทำใหได้รัป บาดเจ็บอย่างหนักอีกครั้งจักรยานล้อโต

ในคืนนั้นผมไปอาสัยอยู่บ้านญาติ เสียใจร้องไห้นอนไม่หลับ ทั้งคืน ทั้งสงสารและเกลียดชังชีวิตที่บัดซบของตัวเองช่างมีแต่ความ เดือดร้อน

หลายวันต่อมาผมตัดสินใจให้ญาติไปติดต่อกับฝ่ายเสียหาย ขอยอมชดใช้เงินจำนวนหนึ่งให้ เขาก็ยอมรับเงินแต่ไม่ยอมถอน^เอง บอกว่าให้เป็นเรื่องของศาลยุติธรรม

ทุกวันนี้ผมอยู่อย่างผู้หมดหวังในชีวิต งานการหนักก็ท่าไม่ได้ เงินทองก็ไม่มีติดตัว ต้องอาศัยเมียและลูกเฎนคนหาเลี้ยงจักรยาน

ผู้เขียนฟังเรื่องที่เขาเล่าให้ฟังแล้วก็ได้แต่ให้เขายอมรั11ผลของ

กรรมที่เคยก่อเอาไว'พยายามท่า^ญกุศลมๅกๆ และสุทิศส่วนกุศลผล บุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่เราเคยท่ากับเขาเอาไ^ขออ'[หสิกรรม6[^1^ กันและกัน นั่งสมาธิท่าจิตใจให้สงบท่าจิตใจให้สบาย หมดกรรมนี้ แล้วชีวิตก็คงจะดีขึ้น

นี่แหละกฎแห่งกรรม ล้าได้กระท่าลงไปแล้ว^งแไม่มีใคร!เ^น

กฎหมายป้านเมืองตามลงโทษไม่ทัน จะหลบหนีไปจนสุดฟ้าดินอย่างไร

ก็ไม่อาจหลีกพ้นไปได้

กรรมสยอ0 สนอวกัชถาI ๖๗

ผมหางานใหม่ต่อไป และเข้าท่างานเป็นลูกจ้างประจำใน ตำแหน่งคนขับรถของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

ไม่ทราบว่าเวรกรรมอะไร พอปีที่ ๒ ผมก็ต้องจำใจหนีออกจาก งาน เพราะรถที่ผมขับได้ชนกับเด็กนักเรียนเข้าอีก เด็กเสียชีวิต จักรยาน fat bike

ผมหนีคดีไปหลบซ่อนที่ก^งเทพฯ คอยติดต่อกับญาติทาง จดหมายเท่านั้น จะกลบก็กลับไม่ได้เพราะญาติฝ่ายเสียหายเขาไม่ยอม ความ คอยจับกุมและแก้แค้นอยู่ตลอดเวลา

ชีวิตของผมช่วงนั้นทุกข์ยากลำบากมาก เพราะต้องคอยหลบ ซ่อนไปอาศัยตามวัด ตามป้านญาติต่างๆ ด้วยความกระวนกระวายใจ นอนก็ไม่หลับ กินก็ไม่อร่อย ที่ป้านผมเมียและลูกๆ ก็ต้องขาดที่พึ่ง ไม่มีผู้นำ ขาดเงิน ขาดความอบอุ่น แต่ผมจะกลับก็ไม่ได้เพราะฝ่ายผู้ เสียหายบอกว่าจะเอาจนถึงตายท่าเดียว

ผมหาทางหนีให้ไกลที่สุด ได้วิ่งเต้นเดินเรื่องราวไปทำงาน เมืองนอก ซึ่งหลังจากท่าเรื่องราวเกึอบปืก็ได้เดินทางสมใจ คดว่าจะ ไปท่างานใช้หนี้สินเก่าๆ ให้หมด ถ้าเป็นไปได้จะท่างานอยู่เมืองนอก จนกว่าจะหมดอายุความของคดีที่ก่อขึ้น

ผมท่างานอยู่ประเทศซาอุดิอาระเบียเ&แทุกข์มากไหนจะเรื่อง อากาศ ร้อน หนาว พายุทราย ซึ่งก็พอทนได้แต่เรื่องห้ามใจไม่ให้คิดถึง แม่ ลูก เมีย เรื่องคดีความที่ก่อขึ้นนี้สิห้ามไม่ได้ เดี๋ยวก็ได้รบจดหมายว่า แม่ปวย เดี๋ยวลูกเกิดอุบัติเหตุ ที่พึ่งขณะนั้นคือคุณพระคุณเจ้าทั้งหลาย

ช่วง ๒ ปีแรกของสัญญาการท่างาน ผมสามารถเก็บเงินได้มาก พอควร สามารถใช้หนี้เก่าและมีเงินเก็บ พอหมดสัญญาก็ต่ออีกจักรยาน fat bike

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ผมเขียนจดหมายนี้คุณต้องการที่จะพูดคุยเกี่ยวกับความสุขหัวใจของฉัน

ผมเขียนจดหมายนี้คุณต้องการที่จะพูดคุยเกี่ยวกับความสุขหัวใจของฉัน
ฉันเป็นพ่อและแม่ของเด็กเท่านั้นทารกน้อย พวกเขาจะขึ้นอยู่กับผมที่มีต่อฉัน แต่ฉันเพิ่งเริ่มหดหู่ เพราะพวกเขาจะไม่ให้ฉันทำอะไรในชีวิตของฉันฉันยังไม่ได้ล้างเสื้อ ผมบอกพ่อของฉันกล่าวว่า "พ่อให้ฉันช่วยให้คุณเช็ดเสื้อผ้าถูกล้าง" พ่อกล่าวว่า "ไปไปตอนนี้คุณมีน้อยมากที่จะเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่คุณไม่จำเป็นต้องเรียนรู้? คุณไม่ได้ทำบ้าน "แม่ของฉันบอกว่า :. " แม่คุณสอนให้ฉันทำมันเพื่อนร่วมชั้นบอกว่าผมจะไม่แต่งตั้งกองพลน้อยที่ทำอาหาร, ร้านซักรีด, เป็นเพียงเจ้าหญิงครีม "แม่กล่าวว่า : "งานของนักศึกษาคือการเรียนรู้โดยการปรุงอาหารสามารถไปเรียนที่วิทยาลัยมันอีกสองปีที่จบการศึกษาถ้าเกรดที่จะเลื่อนลงไปที่โรงเรียนมัธยมจะเสร็จ จักรยาน " ดีฉันเป็นแรงงานของความรักสำหรับเด็ก แม่และพ่อเร็ว ๆ นี้จะกลายเป็น "จักรพรรดิเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่" ฉันเกลียด "จักรพรรดิน้อย" ของชีวิตผมกระตือรือร้นที่จะกลายเป็นพ่อและแม่ของความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ เหมือนพ่อและแม่ไม่สามารถเข้าใจฉัน พวกเขาผูกผมในความสะดวกสบายและทำให้ฉันเกลียดสิ่งแวดล้อมจักรยานล้อโต
ใช้เวลาในวันอาทิตย์สุดท้ายมัน: ผมได้ง่ายและสมบูรณ์ได้รับมอบหมายครูให้ดูที่โต๊ะก่อน 09:00 แม่ของฉันไปซื้ออาหารของพ่อในการปฏิบัติหน้าที่ ผมคิดว่าพ่อของฉันไม่ได้อยู่ที่บ้านผมจะช่วยให้เขาเช็ด ฉันใส่ซับในบึงถังหลังจากงุ่มง่ามถูจากพื้นดินเท่านั้นที่จะถูไม่กี่ครั้ง, เสื้อเชิ้ตสีขาวสีกับรองเท้าสีดำเล็ก ๆ น้อย ๆ หลายคนเปียก จากนั้นแม่ของฉันกลับมาคว้ามือเธอซับรัดเพื่อถูกัน ในขณะที่เช็ดปากของเขา: "ใครบอกให้คุณทำเช่นนี้คุณต้องทำงานมันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ตรงกับอีกหนึ่งสัปดาห์และไปคิดเกี่ยวกับการชูถ้วยของคุณเป็นช่วงต้นดังนั้นวันนี้จะเขียนเรียงความ?." " ปัญหาที่เกิดขึ้นคืออะไร? "ฉันจะร้องไห้ออกมา "ดูคุณไม่มีอะไรจะทำจะเขียน 'จักรพรรดิน้อย' มัน!" คืออะไร? "จักรพรรดิเล็ก ๆ น้อย ๆ "? ใครบอกว่าผมเป็น จักรยาน fat bike  "จักรพรรดิน้อย" ผมรักการทำงานผมไม่ได้ "จักรพรรดิน้อย"!
แอ๊บบี้คุณจะโปรดให้ฉันตอบกลับโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ผมไม่ต้องการที่จะเป็นอาหารที่ปากเสื้อผ้ามือ "จักรพรรดิเล็ก ๆ น้อย ๆ ."
ฉันขอให้คุณมีความสุข!
หวู่ฮั่นเป็นสาวที่มีปัญหา

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การปรับตำแหน่งอาน

การปรับตำแหน่งอาน

ด้านบนและด้านล่างของการปรับตัว

  เมื่อคลายซึ-kan (หลอดที่นั่ง) สายฟ้าหรือคันโยกที่ด้านบนของที่ยึดที่นั่งสามารถย้ายไปโพสต์ที่นั่ง (เพราะฉะนั้นอาน) ในแนวตั้ง


ก่อนและหลังการเปลี่ยนแปลง

   ก่อนและหลังตำแหน่งของญาติอานกับเพลาข้อเหวี่ยงมันจะเป็นตำแหน่งที่ขาเพิ่มความแข็งแรงจะถูกส่งอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเหยียบที่ ไปสิ้นสุดที่อยู่ในตำแหน่งแนวนอนข้อเหวี่ยงและตำแหน่งศูนย์กลางของการเหยียบมาภายใต้ข้อเข่า มันจะถูกปรับให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับตัวเองจากตำแหน่งที่เป็นกลางที่ นับตั้งแต่เกิดความสับสนในลักษณะและมีลูกดิ่ง ​​(ขวา) หรือน้ำหนักว่าวด้ายและแขวนจากข้อเข่าต่อตาม (จาน [สะบ้า])) จะสามารถมองเห็น ก่อนและหลังตำแหน่งของอานถ้าคุณจะแนบไปกับด้านล่างของอานโดยคลายน็อตหกเหลี่ยมของแคลมป์ (หอ) ที่ยึดรางอานที่จะโพสต์ที่นั่งที่สามารถย้ายขึ้นไป 30 ~ 40mm ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการรวมกันของรถไฟและยึดที่ช่วงการปรับบาง 10mm หรือน้อยกว่า ถ้าคุณต้องการปรับขนาดใหญ่ (เลื่อน) มีแนวโน้มที่จะยืนอยู่มุมหลอดไม่เหมาะ

การปรับความลาดเอียง

  Saddle พื้นผิวด้านบนของความลาดชัน (มุมอาน) เพื่อให้เป็นแนวนอนและปรับใช้ในระดับที่ อานของความลาดชันที่เป็นตัวแทนจากความลาดเอียงของเครื่องบินผ่านจุดสูงของอานด้านหน้าและด้านหลัง (UCI) เมื่อคลายน็อตที่ยึดที่ยึดอานสนับสนุนรถไฟโพสต์ที่นั่งอานมุมอานสามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยการปรับ 1 ~ 2 องศามุมอานสำหรับบางคนมันอาจจะเป็นไปได้ที่จะบรรเทาความเจ็บปวดของความเจ็บปวดและกลับมาในตูด กฎ UCI (1.3.014) ก็อานที่นั่งพื้นผิวแนวนอนและกำหนด


ความปราชัย

  กำหนดกลับระยะทางแนวนอนจากวงเล็บด้านล่าง (BB) หลักอานจมูก (ขวา) นอกจากนี้ยังเรียกว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาน ระยะเวลาในอานมิตินี้จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความยาวยื่นออกมาของโพสต์ที่นั่ง (ตัวแปร) และตำแหน่งยาวของอานที่โพสต์ที่นั่ง (ตัวแปร) ยานพาหนะถนนตั้งกลับมาเพิ่มขึ้นอีกต่อไปความยาวขา 40 ~ 90 มม 
ตั้งด้านหลังสามารถปรับได้โดยการคลายสายฟ้ายึดอานโพสต์ที่นั่งรักษาความปลอดภัยรางอานอานที่จะย้ายกลับมา 
ตั้งค่ากลับ (ภาวะถดถอยอาน) ในข้อเหวี่ยงตำแหน่งในแนวนอนและวางตำแหน่งศูนย์กลางของการเหยียบมาภายใต้หัวเข่าของจาน (สะบ้า) มันจะถูกปรับให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับตัวเองจากตำแหน่งที่เป็นกลางที่ ตัวอย่างเช่นในการย้ายจากตำแหน่งที่เป็นกลางถ้าสำหรับการแข่งขันระยะยาวหลังอาน 10mm ถ้าคุณต้องการที่จะมุ่งเน้นการเร่งเช่น Sprint ที่จะย้ายไป 10mm ดังกล่าวก่อนหน้านี้ 
  ในกฎระเบียบ UCI ที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอานถูกกำหนดให้เป็นขั้นต่ำ 50 มม

มาตรการความเจ็บปวดอาน

  กล้ามเนื้อตูดมวลมวลไขมันรูปร่างมีความแตกต่างของแต่ละบุคคลในความกว้างเช่น sciatic และไหลเวียนของเลือดโดยคนในการทำงานทางไกลบางครั้ง ASS บาดเจ็บจากอาน 
มาตรการความเจ็บปวดอานมีดังนี้
  •  รูปร่างฉันเลือกอานขนาด ฯลฯ (กว้างโดยเฉพาะ) และวัสดุที่เหมาะสมกับพวกเขา เจลเข้าไปในที่มีประสิทธิภาพสำหรับบางคน
  •  ก่อนที่จะเจ็บเก็บซ้ำว่าจะเรียกคืนไหลเวียนของเลือดไปลอยก้นจากอาน (ตัวอย่างเช่น 10 ทุก 15 นาที)
  •  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคนที่มีว่าอาการปวดจะลดลงเมื่อด้านหน้าอาน (จมูก) ลดลงเล็ก ๆ น้อย ๆ (1 ° ~ 3 °) เกินไปและเลื่อนลงก่อนที่จะลา มาตรฐานแนวนอน
  •  สวมกางเกงขาสั้นรอบเท่านั้น หากคุณมีการสวมใส่กางเกงทั่วไปภายใต้ชายแดนบางครั้งการบีบอัดตูด
  •  เราต้องการที่จะแก้ไขความสูงของอาน สูงเกินไปและลาหมุนเหยียบทุกคนมีแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นการเคลื่อนไหวบนด้านซ้ายและขวา ถ้าเป็นโหลดต่ำเกินไปของอาน (ลา) เพิ่มขึ้น
  •  ความเร็วในการทำงานได้รับผลกระทบ หากคุณทำงานได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากมีกำลังกดเหยียบมันจะกลายเป็นไปได้ที่จะได้รับร้อยละใหญ่ของน้ำหนักตัวในเหยียบเป็นภาระของลา (อาน) จะลดลง
    นอกจากนี้ตั้งแต่การก้มที่มากขึ้นภาระที่จะได้รับการสนับสนุนด้วยมือ (จับ) ภาระของลาจะลดลง โดยทั่วไปแล้วน้ำหนักจะใช้ร่วมกันโดยอานจับและเหยียบ
  •  เราใช้การระงับการโพสต์ที่นั่ง อย่างไรก็ตามนอกจากจะทำหนักกว่าเล็กน้อยส่วนเล็ก ๆ ของความแข็งแรงของขาจะถูกดูดซึม นอกจากนี้ยังมีผลสำหรับคนบางคนไม่มี
  •  ปกอานเช่นเจลที่มีส่วนผสมของฉันครอบคลุมอาน
  •  ในการเดินทางทางไกลคนที่กำลังลูบระหว่างเสื้อผ้าและตูด, สีครีม (ครีม Shami) อยู่ภายในหรือตูดของเสื้อผ้า (เช่นกางเกงขาสั้น) ในการติดต่อกับอานเป็นสารหล่อลื่นที่
  •  ที่คุณจะได้รับใช้ในการขี่จักรยานในชีวิตประจำวัน หากคุณไม่ได้นั่งเกินหนึ่งเดือนก็อาจอานไม่สบาย

ปกอาน

  ฝาครอบอยู่เหนืออานที่มีเบาะและฝาครอบ (ปก)

  •   เบาะหน้าปกได้รับการคุ้มครองเพื่อปรับปรุงการกระแทกของอานที่ นอกจากนี้ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่จะเปลี่ยนรูปร่างและขนาด
    ผู้ที่ใส่บรรจุเช่นเจลเช่นผู้ที่ได้รับโดยการประมวลผล (เจลอานปก) และความหนา 5 มมยางนีโอพรี
    เพื่อที่จะไม่บีบอัด perineum (ที่ไอน์) นอกจากนี้ยังมีรูปแบบให้กับร่องในศูนย์ ปกใส่บรรจุได้รับการแก้ไขเพื่ออาน ฯลฯ สตริงที่ถูกวางไว้ในแหวน
    แทนที่จะติดปกมันเป็นที่พึงปรารถนาที่จะเปลี่ยนอาน
  • ฝาครอบ
      แสงแดดในช่วงหน้าปกการจัดเก็บจักรยานล้อโต ถูกปกคลุมเพื่อป้องกันฝนและฝุ่น (ปก)
    มันถูกใช้เช่นในอานหนัง

ถุงอาน

  ในฐานะที่เป็นถุงที่แนบมากับอานเป็นถุงอานมี

ความดันอาน

  เมื่อนั่งอยู่บนอาน, ความดันทำหน้าที่ระหว่างอานม้าและก้นที่เรียกว่าความดันอาน ความดันจะมีการกระจายมากกว่าคงมีความดันสูงสุดและความดันเฉลี่ย อานมีรูที่เพิ่มความดัน ความดันยังมีความเกี่ยวข้องกับความเจ็บปวดอาน 
เมื่อเทียบกับท่าขี่ม้าของการจัดการลดลงลดลงในสัดส่วนที่จะสนับสนุนร่างกายในการจัดการที่เพิ่มขึ้นความดันอานเมื่อเทียบกับด้านบนจะลดลง 5-10% 
  มันแสดงให้เห็นในด้านซ้ายบนของตัวอย่างเช่นการกระจายของความดันอานในผู้ชายและผู้หญิงของแต่ละตรงและพิงไปข้างหน้า สีอื่น ๆ คือความดันที่มืดที่มีขนาดใหญ่ 
ในตัวอย่างนี้น้ำหนักตัวเพศหญิงมีน้ำหนักเบากว่าผู้ชาย ผู้ชายใน anteversion (ลดลง) เมื่อเทียบกับตรง (บน) แต่ส่วนแรงดันสูงถูกมองว่าเป็นก้าวไปข้างหน้าไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากในผู้หญิง ผู้หญิงที่ anteversion แรงกดดันมากขึ้นในส่วนภาคกลางกว่าตรง 
  ในแง่ของความดันเฉลี่ยผลผลิตสูงเมื่อเทียบกับกรณีที่มีการใช้พลังงานต่ำเนื่องจากการใช้แรงเหยียบจะเพิ่มขึ้นความดันอานจะลดลง 10-25% ความดันอานดังแสดงในกราฟรูปที่เหมาะสมข้างต้นมุมข้อเหวี่ยงเพื่อบังคับให้นำไปใช้กับเหยียบจากการเปลี่ยนแปลง, 0 ° (360 °) และขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียง 180 องศาก็มีขนาดค่อนข้างเล็กในบริเวณใกล้เคียง 90 องศาและ 180 องศา

แทบยืนอยู่มุมหลอด

  ตั้งแต่นั่งบนอานเพื่อถีบตำแหน่งอานคือวงเล็บด้านล่าง (BB) จะกลายเป็นหลักอ้างอิง ถ้าคุณวาดเป็นเส้นตรงจากหลักบีบีไปนั่ง sciatic บางส่วนบนอานมุมที่ทำให้เส้นตรงกับผิวถนนจะกลายเป็นรูปธรรมมุมมังกรกาญจน์ (คนที่ยืนอยู่มุมหลอด) 
  โดยทั่วไปมุมหลอดยืนเสียบในรูปแบบที่โพสต์ที่นั่งกับพื้นผิวถนนที่เรียกว่ามุมหลอดยืน (มุมที่นั่ง) มุมหลอดยืนเป็นมุมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 75 องศา ในมากขึ้นกว่าเมื่อมุมแน่น 75 °น้อยกว่า 75 °คือมุมที่อ่อนโยน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของกรอบ แต่เมื่อยืนอยู่มุมหลอด 1 °แน่น (ใหญ่) ตำแหน่งเหยียบที่จะย้ายไปประมาณ 10 มมย้อนหลัง ในทางตรงกันข้ามเมื่อมุมหลอดยืนเป็นอย่างหลวม ๆ 1 ° (เล็ก) ตำแหน่งเหยียบที่จะย้ายไปข้างหน้าประมาณ 10 มม โดยทั่วไปมุมแผ่นปานกลางเน้นการทำงานทางไกลมุมหลอดยืนแน่นเหมาะสำหรับระยะสั้นการทำงานที่ความเร็วสูง 
  ในสภาวะปกติก็มักจะเป็นมุมหลอดยืนมนุษย์ค่อนข้างหลวมหรือใกล้เคียงกับเครื่องมุมท่อตรง อย่างไรก็ตามอานสามารถเคลื่อนย้ายบนรถไฟกลับมาและในการสั่งซื้อเช่นรูปร่างอานนั่งอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกันคนที่ยืนอยู่มุมหลอดค่อนข้างแตกต่างจากเครื่องเริ่มต้นหลอดมุม 
  จากนั้นก็แสดงให้เห็นเครื่องคิดเลขที่สามารถคำนวณมุมหลอดระดับความสูงของมนุษย์ (มุมเริ่มต้นหลอดจริง) ก ในฐานะที่เป็นจมูกอานตำแหน่งแนวนอนของเครื่องคิดเลขเดียวกันคุณเข้าสู่ระยะทางแนวนอนด้านหลังจากแกน BB ปลายอาน (จมูก) ถ้าปลายอานอยู่ในหน้าของแกน BB กับระยะทาง - วาง (ลบ) ตำแหน่ง sciatic ระยะทางแนวนอนจากปลายอานเพื่อ sciatic

  ใส่รายการที่กำหนดไว้ในหมายเลขเดียวไบต์กดปุ่ม [คอมพิวเตอร์]  มุมหลอดยืนจริง (มุมหลอดเริ่มต้นที่มีประสิทธิภาพ) สามารถคำนวณได้

หลอดยืนจริงมุมเครื่องคิดเลข
 ความสูงของอาน 
 (จากถนน) 
 ความสูงของบีบี  อานตำแหน่งแนวนอนจมูก 
 (จากแกนบีบี) 
 ตำแหน่ง sciatic 
 (จากจมูกอาน) 
 แทบยืนอยู่มุมหลอด 
  มิลลิเมตร  มิลลิเมตร   มิลลิเมตร  มิลลิเมตร
[การคำนวณตัวอย่าง]
อานสูง 890mm, BB สูง 275mm (เหมือน -20 ในกรณีที่ไปข้างหน้า - ใส่) ไปยังตำแหน่งที่จมูกอานที่อยู่เบื้องหลัง 20mm และในกรณีของ 170mm ตำแหน่ง sciatic  แทบหลอดตรงมุม 72.8 ° กลายเป็น

การทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของอาน

  "JIS D9431 จักรยาน fat bike - อาน" ผมแสดงให้เห็นถึงการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของอานมีระบุไว้ในตารางที่ 2
ตารางที่ 2 การทดสอบประสิทธิภาพของอาน (JIS D9431)
 รายการทดสอบ วิธีการทดสอบเกณฑ์ในการตัดสิน
ผลการดำเนินงานคงที่
(แนวตั้ง)
จากปลายด้านหน้าอานในสถานที่ภายใน 25mm ก็จะเพิ่มภาระในแนวตั้งของ 668N
 (โพสต์ที่นั่งคือแรงบิดของ 22.2mm เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกและการออกแบบกลีบดอกเบญจมาศที่ฐานส่วนเกลียวชุบโครเมียมและ 20nm)

 โดยไม่ต้องมีส่วนร่วมให้กับแต่ละความผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญและความเสียหายและอานจะต้องไม่ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวระหว่างโพสต์ที่นั่ง
ผลการดำเนินงานคงที่
(ทิศทางแนวนอน)
จากปลายด้านหน้าอานในสถานที่ภายใน 25mm ก็จะเพิ่มภาระในแนวนอนของ 222N
 (โพสต์ที่นั่งคือแรงบิดของ 22.2mm เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกและการออกแบบกลีบดอกเบญจมาศที่ฐานส่วนเกลียวชุบโครเมียมและ 20nm)

 โดยไม่ต้องมีส่วนร่วมให้กับแต่ละความผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญและความเสียหายและอานจะต้องไม่ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวระหว่างโพสต์ที่นั่ง
ความคงทนพื้นผิวที่นั่งอานในแนวนอนก็พอดีกับที่โพสต์ที่นั่งที่จะสั่นสะเทือนเครื่องทดสอบของมวล 80
 กกผิวที่นั่งผ่านอะแดปเตอร์ที่วางอยู่บนน้ำหนักเพิ่ม2.5Hz ความถี่และ 120,000 ครั้งการสั่นสะเทือนในแนวตั้งของ 16mm ความกว้างรวม

 ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวที่นั่งและความเสียหายต่อชิ้นส่วนและการเปลี่ยนรูปอย่างมีนัยสำคัญว่ามีความผิดปกติไม่มี
ความแรงของฤดูใบไม้ผลิคอยล์สปริงหลังอานชนิดขดลวดฤดูใบไม้ผลิบีบอัดเป็นเวลา 30 วินาทีใช้ภาระของ 300N เอาโหลดสายพันธุ์ถาวรสิ่งต่อไปนี้ 0.5 มม
ต้านทานความหนาวเย็นอานม้าพลาสติกหลังจากเย็น 30 นาที -20 ± 2 ℃,
 ทันทีที่เครื่องทดสอบในพื้นผิวแนวนอนที่นั่งติดตั้งลดลงน้ำหนัก8 กิโลกรัมมวลจากความสูง 600 มม
แต่ละส่วนจะต้องไม่ได้รับความเสียหาย
ฝาครอบความแข็งแรงระเบิด ความแรงของระเบิดของฝาครอบยางสังเคราะห์ที่จะใช้สำหรับด้านบนอานมีการทดสอบด้วยวิธีการรูปแบบของมูลเล็น JIS L109660N / cm 2จะต้องไม่น้อยกว่า

วัสดุหนังแรงดึง
ความต้านแรงดึงและการยืดตัวของวัสดุหนังที่ใช้สำหรับด้านบนอานมีการทดสอบใน JIS K6550ความต้านทานแรงดึง, 22N / มม2หรือมากกว่าการยืดตัว 30%
 ต้องน้อย

ความสูงของอานตัวแปร


  ภาพรวมโดยการดำเนินการคันที่มีการโพสต์ที่นั่งตัวแปรซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงความสูงของอานในไม่กี่วินาทีในขณะที่ทำงาน 
กำหนดความสูงแตกต่างแออัดในท่อยืนของกรอบฉันคงโพสต์โดยยึดที่นั่ง 
หยดก็ยังเรียกว่าโพสต์ที่นั่งและโพสต์หยด   การประยุกต์ใช้ปีนขึ้นลงเป็นจำนวนมากข้ามประเทศเช่นเนินเขาลง (ลงเนิน) และนั่งฟรีและใช้เป็นโพสต์ที่นั่งของความสูงตัวแปรสำหรับจักรยานเสือภูเขา ในการปีนขึ้นไปอานสูงในลงไปเป็น Hashireru ที่ท่าขี่ม้าที่ดีที่สุดเช่นโดยการลดอาน   อานแม้ว่าอานกับรถไฟอาน Dekiru ติดตั้งนอกจากนี้ยังมีรูปแบบที่สามารถติดเป็นอานฉันคาน   การดำเนินงานควบคุมคันโยกที่มีรูปแบบของการควบคุมระยะไกลที่ติดอยู่กับรูปแบบและการจัดการกับโพสต์ที่นั่งด้านบน (ภายใต้อาน) ก้านและโพสต์ที่นั่งตัวแปรของการควบคุมระยะไกลที่มีเชือกเชื่อมต่อกับด้านนอก ทั้งสองตำแหน่งอานถูกกำหนดไว้ที่คันกดลงน้ำหนักที่วางอยู่บนอานที่จะปล่อยคันโยกเมื่อมันจะลดลง และเอวลอยโดยการกดคันโยกเมื่อมันถูกยกขึ้น โพสต์ที่นั่ง (อาน) การเพิ่มขึ้นของแรงสปริงตำแหน่งโพสต์ที่นั่งได้รับการแก้ไขเมื่อคุณเปิดคันโยก นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการทำงานในสมของเหลว ด้านนอกมีรูปร่างที่เชื่อมต่อกับรูปร่างและส่วนนิ่งมีการเชื่อมต่อไปยังส่วนที่สามารถเคลื่อนย้าย   โรคหลอดเลือดสมองช่วงการปรับ (จังหวะ) เช่น 75100125 หรือ 150mm การเดินทางและที่ผมพูด บรรดาจังหวะสั้น ๆ ที่ใช้ในการข้ามประเทศและข้ามวงจร ปีน (บน) มีเส้นทาง (ปีน -40mm) และลงแบบฟอร์มที่คุณสามารถเลือกโหมด 3 (ต่ำสุด) ในคันปฏิบัติการ มีรูปแบบที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ในช่วงเวลา 5mm คันในการดำเนินการคือ   เส้นผ่าศูนย์กลางรอบนอกเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของการโพสต์ 27.2mm เช่น 30.9mm 31.6mm หรือ มันจะเป็นไปตามเส้นผ่าศูนย์กลางภายในของหลอดยืน มีรูปแบบที่ได้รับการป้องกันจากการหมุนโดยการให้โพสต์ที่สำคัญคือ ความยาว   100 ~ 450mm อีกต่อโรคหลอดเลือดสมองที่มีขนาดใหญ่ มวล   480 ~ 650g

จักรยานล้อโต